ชีวิตดราม่า! โรครุมเร้า บ้านถูกยึด "ป้าแมว" นักแสดงที่ถูกลืม
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/399/1997446/untitled-1.jpgชีวิตดราม่า! โรครุมเร้า บ้านถูกยึด "ป้าแมว" นักแสดงที่ถูกลืม

    ชีวิตดราม่า! โรครุมเร้า บ้านถูกยึด "ป้าแมว" นักแสดงที่ถูกลืม

    2016-05-18T16:21:18+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    "คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม มองนภาไม่แจ่มแลแอร่มแค่แสงดารา ดาวสุกใสอยู่ปลายฟากฟ้า แสงแจ่มเหนือมวลดาราเป็นทั้งดาวฟ้าดาวใจ"

    ย้อนกลับไปช่วงเวลาปี พ.ศ. 2537 กว่ายี่สิบปีที่ละคร "ดาวพระศุกร์" เคยโด่งดังจนแฟนละครติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองเพราะนอกจากจะแจ้งเกิดพระนางแล้วนั้นตัวละคร "ป้าแมว" รับบทโดย "รุ่งกานดา เบญจาภรณ์" ก็เป็นอีกหนึ่งละครที่มาช่วยสร้างสีสันละครเรื่องนี้สนุกสนานจนกลายเป็นชื่อเรียกติดปาก "ป้าแมว ดาวพระศุกร์"

    เมื่อวันเวลาผ่านไป "ป้าแมว ดาวพระศุกร์" ในวัย 74 ก็กลับกลายเป็นอีกหนึ่งดาราอาวุโสที่ถูกลืมอย่างสนิท เคราะห์ซ้ำกรรมซัดงานละครที่เคยล้นมือนั้นก็น้อยลงจนแทบไม่มี หนำซ้ำยังป่วยโรคภัยรุมเร้าสารพัด แต่ที่สิ่งที่ทำให้ "ป้าแมว" กลั้นน้ำตาไม่อยู่นั้นหลังจากเปิดใจกับทีมข่าว Sanook! News คือการเจอมรสุมชีวิตบ้านที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเองนั้นหลังจากถูกยึดและประกาศขายเพราะไม่งานแสดงจึงทำให้ไม่มีรายได้ไปไถ่นำกลับคืนมา

    มรสุมชีวิต "ป้าแมว" โรครุมเร้าบ้านถูกยึด

    "ช่วงที่เราไม่มีงานไม่มีเงินปัญหามันเกิดขึ้นไม่มีเงินส่งบ้านธนาคารเขาก็ต้องยึด และจังหวะที่เราแย่ก็ได้ไปออกรายการทีวีก็เลยมีน้ำใจคนแห่เข้ามาจะช่วย และก็จะมีคนนึงมาที่บ้านมาช่วยว่าจะซื้อไว้ให้ แล้วป้าแมวก็บกไว้ว่าขอเวลาสองปีเผื่อว่า ผู้จัดคนในวงการสงสารเมตตาเรียกไปทำงาน เรียกไปเล่นละครเราจะได้เอาเงินจำนวนนี้ไปคืนเขาแต่แล้วมันไม่ใช่ไม่งานไม่มีใครเรียกไปเล่นละคร

    คิดให้สบายใจมันก็เหมือนเป็นวิบากกรรม เขาคงอยากจะทดสอบลองดูว่าจะทนไหวมั้ย แต่เราต้องไหวซักวันเราก็ต้องผ่านช่วงนี้ไปได้ และอย่างที่บอกว่าช่วงที่เราไม่มีงานไม่มีเงินปัญหามันเกิดขึ้นไม่มีเงินส่งบ้านธนาคารเขาก็ต้องยึด จนกระทั่งมาน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ก็ย้ายไปเช่าบ้านอยู่สระบุรี ถามว่าเอาเงินที่ไหนใช้ก็ประชาชนที่รู้ข่าวเขาก็เมตตาโอนมาให้บ้าง อั้ม พัชราภา โทรมาด้วยตัวเองอั้มโอนเข้าไปแล้วนะคะป้าแมวเราได้ตรงนี้คือประชาชนช่วยตรงนี้เลยอยู่ได้

    จังหวะนั้นป้าแมวก็ไม่อยากหยุดนิ่งได้เล่นละครพอจะมีรายได้ก็ไปขายขนมสามถุงร้อยอยากจะหาเงินไปไถ่บ้านแต่ไปก็ไม่รอดค่าเช่าที่แพงสุดท้ายก็ต้องหยุด ที่นี่ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นอะไรกับชีวิตมีคนมาทำข่าวก็จะไปดูบ้านก็ลมแทบใส่อีกคือไปเห็นเขาปิดป้ายขายแล้วโทรศัพท์ไปทนายความรับบอกว่ามีเจตนาที่จะไม่เอาบ้านหลังนี้แล้ว ก็พูดไม่ออกเพราะเราก็ไม่มีเจตนาที่จะไม่เอาเพราะเราก็พยายามทำงานรวบรวมเงินให้เพียงแต่ช่วงก่อนไม่มีงานและก็เจ็บป่วยเลยยังหามาคืนไม่ได้ เพราะเรายังไม่มีเงินจำนวนก้อนใหญ่ที่จะไปให้เขาทันทีเราก็อยากจะขอความกรุณาเขาว่าขอเวลาเขาอีกซักระยะนึงไปก่อนค่ะ"

    ป้าแมวเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เจอมรสุมครั้งใหญ่ของชีวิตตัวเองเมื่อบ้านถูกยึดปัจจุบันจนต้องไปเช่า บ้านเอื้ออาทร และอาศัยรับงานละครเล็กน้อยเพื่อปะทังชีวิตและเก็บไว้เป็นค่ายาค่าหมอในยามป่วยไข้ พร้อมยังบอกถึงสาเหตุที่ไม่มีเงินเก็บในบั้นปลายชีวิตเพราะเป็นนักแสดงสมทบที่ค่าตัวไม่ได้สูงมากมาย

    "เราไม่ใช่นางเอกค่าตัวเราก็ไม่ใช่ระดับนางเอก แล้วละครค่าตัวเรื่องนึงไม่ใช่ทาองเดือนเสร็จแล้วได้เงิน ถ่ายทำกันบางทีแปดเดือนเก้าเดือนเป็นปีแล้วกว่าจะเสร็จถึงจะได้เงิน บางที่ละครถ่ายจบซักเดือนนึงก็คิดเงินให้ บางที่ก็ละครออกอากาศถึงได้รับเงินออกตอนก็รับของตอนนี้ การทำงานของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ที่นี้ถามว่าจะเอาไรกินเอาไรใช้ก็นี่ไงคะเราถึงต้องยืมเพื่อนด้วย พอเงินออกเราก็คืนเพื่อน เมื่อก่อนนี้เรามีละครเยอะเรื่องนี้จบเราก็เกินใช้จากเรื่องนี้มันก็รันไปตลอดเวลา

    และนี่แหละคือที่บอกว่าทำไม่ถึงไม่มีเงินเก็บเพราะมันต้องเอามาหมุนใช้วนไป นางเอกเรื่องนึงได้ค่าตัวเป็นล้าน ป้าแมวได้เป็นหมื่นและกว่าจะได้เป็นหมื่นมันก็หมุนไม่ทันและเราก็ไม่มีเงินเก็บพอเราเก็บได้ไม่เท่าไหร่ก็มาเจ็บป่วย ถามว่าป้าแมวเจ็บป่วยรัฐบาลเขาก็มีช่วย 30 บาท ทำไม่ไป ไปค่ะไปเอายาแต่เมื่อก่อนไม่กล้าไปเพราะไปแล้วมีคนว่าเป็นดาราทำไมต้องมาเอายา ให้คนที่เขาไม่มีไม่ดีกว่าหรอเราเลยมีความรู้สึกเราผิดเลยไม่ไป แต่ระยะหลังก็มาคิดว่าเราก็ควรจะมีสิทธิเพราะเราเสียภาษีในฐานะประชาชนก็เลยไปเอายาเช่น ยาหอบ ยาความดัน ยาไขมัน ไปเข้าคอร์สหอบ อันนี้ไปโรงพยาบาลที่เรามีสิทธิค่ะ"

    แม้ระยะหลังด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงหลากหลายไปด้วยโรคภัยรุมเร้าเพราะวัยที่ล่วงเลยเข้าสู่อายุ 74 ปีแล้วนั้น ป้าแมวก็เลือกจะไม่ขออยู่เฉยๆ หากวันที่ไม่มีงานละครให้แสดงก็จะรับดูดวง

    "ป้าแมวจะไม่ใช่การดูที่จะให้ไปสะเดาะเคราะห์แต่จะดูและให้คำสอนคำแนะนำเช่น บางคนก็มาแบบจะเลิกกับสามีไปดูที่ไหนมาเขาก็ให้เลิก ป้าแมวจะบอกเลยว่าไม่ได้จะไปเลิกกับสามีคุณได้ไง สามีคุณอยู่กันมากี่ปีและคุณไปเชื่อเขาได้ไงและก็ให้ข้อคิดสติเขา สุดท้ายเขาเชื่อป้าแมวเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข การให้ข้อคิดดีๆ เขาไปมันก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเขา ป้าแมวก็ไม่รู้ว่าพรสวรรค์ตรงนี้มาได้ยังไง แต่ก็คิดว่าเราคงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เรา

    มีคนเคยทักว่าจริงๆ ป้าแมวตายไปแล้วนะป้าแมวไม่สบายเป็นเดือนเส้นโลหิตฝอยแตกแต่ไม่เป็นอะไรเลย ป้าแมวก็ไม่รู้เหมือนกันสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้ก็อาจจะคุ้มครองเรา และอยากให้อยู่เพื่อไว้สอนคน แต่หลังๆ ก็หยุดดูไปบ้าง ต่างจังหวัดก็ดูให้ได้ต่างจังหวัดป้าแมวก็สามารถดูให้ได้ทางโทรศัพท์แต่คงต้องโอนค่าครูเข้ามาก่อน ดูไปแล้วบางคนโทรมาป้าแมวอย่างนั้นอย่างนี้ดูให้ไปแล้วลืมเขาก็ไม่โอนแล้วแต่ถ้าใครอยากดูมีเรื่องเดือดร้อนใจป้าแมวก็จะดูให้แอดไอดีคนดูแลป้าแมว 089-126-1879 นะคะ"

    ความสุขในวันวาน "ป้าแมว" นางร้ายมาแต่กำเนิด

    อย่างไรก็ตามใช่ว่าชีวิตของนักแสดงอาวุโส "ป้าแมว ดาวพระศุกร์" จะเจอแต่ความทุกข์ให้ต้องระทมใจชีวิตในวันวานในยุคที่เคยโด่งดังจากการแสดงละครจนได้ฉายา "เธอร้ายมาแต่กำเนิด"นั้นก็ยังเป็นเรื่องราวและความทรงจำทำให้ป้าแมวมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึง

    "ป้าแมวได้เล่นละครเรื่องบ้านทรายทองกับทางช่อง7 ก็แจ้งเกิดเลยตัวละครที่ชื่อ สายใจ เป็นเพื่อนของหม่อมที่จมไม่ลงและก็มาเป็นแม่บ้านที่จะล้วงความลับ ก็เลยแจ้งเกิดที่ทุกคนเรียกว่าเธอร้ายมาแต่กำเนิดพอมา แต่มาเรื่องที่ดังมากๆ คือดาวพระศุกร์ และตัวละครที่ป้าแมวเล่นในเรื่องไม่มีนะคะเขาเพิ่มขึ้นมาป้าแมวชื่อแมวเขาก็ไหนๆ ชื่อแมวก็เอาแมวนี่แหละตอนนั้นป้าแมวอายุประมาณ 52 เขาจ้างให้เล่นสิบเราเล่นร้อยมันก็เลยแบบว่าเกิดและชีวิตช่วงนั้นต้องอยู่แต่ในที่ซ่อนออกมาไม่ได้โดนค่ะ บางทีเรียกอีแมวน้ำลายกระเด็นเต็มหน้าป้าแมวก็เลยบอกอันนั้นชื่อจริงนะคะ

    และไม่ว่าจะไปตรงไหนมีแต่คนบอกว่าอีแมวมาหรือเปล่าพ่อของ กบ สุวนันท์ วิ่งมาบอกเลยพี่แมวๆ อย่าออกมานะเขาจะมาตบพี่แมวกันเราก็ต้องเข้าไปหลบ มันมีนะที่เหมารถจะมาตบก็เรื่องจริงไปถ่ายในตลาดก็มาแล้ววันนี้ใครมาอีแมวมามั้ย วันนี้จะมาตบมันคนอินกันมากก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ชีวิตการแสดงของป้าแมวสนุกค่ะ ความรู้สึกมันเป็นอย่างนั้นเช้าขึ้นมาก็ไปทำงานอยู่กองถ่ายมันมีความสุขมาก วันดีคืนดีป้าแมวก็เก็บเสื้อผ้าไปอยู่กองถ่ายไม่กลับบ้านไปนอนกองถ่ายมันมีความสุขเรารักมัน

    ถ้าเกิดนั่งๆ อยู่โอ๊ยๆ จะตายแล้วลองใครโทรเข้ามาสิป้าแมวพรุ่งนี้มีละครให้เล่นมันเหมือนเสียงสวรรค์เลย ต่อให้ตอนนี้อายุ 70 กว่าแล้วไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ป้าแมวจะเล่นให้เต็มที่ไม่ต้องคิดป้าแมวแก่แล้วจำบทได้มั้ยความแก่ไม่มีปัญหาสำหรับการเล่นละครสำหรับป้าแมว นี่แหละชีวิตช่วงที่โด่งดังก็มีทั้งทุกข์ทั้งสุข"

    บั้นปลายชีวิต "ไม่สุขสบาย" แต่ใจขอสู้ไม่ท้อ

    อย่างไรก็ดีแม้โชคชะตาจะไม่ได้กำหนดให้ช่วงบั้นปลายชีวิตของ "ป้าแมว ดาวพระศุกร์" ได้สุขสบายยังจะต้องทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเองแม้จะเหนื่อยแต่ก็ขอสู้ไม่ท้อกับชีวิต

    "เหนื่อยนะคะ เหนื่อยมากๆ ทำไมชีวิตเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ทั้งโรคหอบและสารพัดบ้านก็จะถูกยึดถ้าเป็นคนอื่นก็คงจอยากตายไปแล้ว แต่ป้าแมวไม่เลยค่ะยังอยากอยู่อยากทำงานอยากเล่นละคร ตอนนี้ก็ได้เล่นละครอยู่บ้างที่ออกอากาศอยู่ก็โนราห์ และถ่ายอยู่ก็อังกอร์ มีประมาณสามตอนยังถ่ายไม่เสร็จเงินก็เลยยังไม่ได้อันนั้นเราไม่ว่ากัน และก็เส้นสนกลรักถ่ายอยู่เหมือนกัน

    ก็อยากจะวอนผู้จัดถ้าเกิดสงสารป้าแมวขอให้เรียกป้าแมวไปทำงานให้ได้เสมอ จะได้รวบรวมเงินทั้งหมดจากที่ทำงานแสดงไปไถ่บ้านกลับมา ป้าแมวยังเล่นละครได้เล่นทุกช่อง ขอเถอะอยากทำงานค่าตัวป้าแมวเท่าไหร่อยู่เท่านั้นไม่เคยอัพเพราะกลัวไม่จ้าง บางทีโดนตัดค่าตัวครึ่งๆ เล่นมั้ยเล่นค่ะเพราะเอาไว้กินข้าวเอาไว้รักษาตัว ถามว่าน้อยใจมั้ยน้อยใจมากๆ เลยแต่เราต้องต้องทำชีวิตคนเรายังมีแรงทำงานได้เราก็ต้องทำค่ะ"

    และนี่ก็คือเรื่องราวชีวิตนักแสดงอาวุโสที่ตลอดการสัมภาษณ์ชีวิตของ "ป้าแมว ดาวพระศุกร์" ได้สะท้อนให้เห็นความไม่แน่นอนของชีวิตที่เมื่อวันนึงขึ้นไปสู่จุดสูงสุดก็ย่อมเปลี่ยนแปลงลงมาสู่ต่ำสุด ได้เสมอเพียงแต่ว่าเราจะยอมรับมันและเลือกจะสู้ต่อไปเพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเองหรือไม่ก็เท่านั้นเอง

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

    อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ ชีวิตดราม่า! โรครุมเร้า บ้านถูกยึด "ป้าแมว" นักแสดงที่ถูกลืม