ท้องถิ่นพาเที่ยว-พระธาตุนาดูน...พุทธมณฑลอีสาน อิ่มบุญวันมาฆบูชาที่มหาสารคาม

ท้องถิ่นพาเที่ยว-พระธาตุนาดูน...พุทธมณฑลอีสาน อิ่มบุญวันมาฆบูชาที่มหาสารคาม

ท้องถิ่นพาเที่ยว-พระธาตุนาดูน...พุทธมณฑลอีสาน อิ่มบุญวันมาฆบูชาที่มหาสารคาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสียงก้องกังวานของบทสวดมนต์ที่เต็มไปด้วยพลังศรัทธาดังก้องแนวป่า สะท้อนผ่านศาสนสถานสำคัญตั้งแต่กู่สันตรันต์ กู่น้อย เรื่อยไปถึงศาลานางขาวในเขตพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม

เป็นบรรยากาศอันเข้มขลังในทุกๆ วันพระ หรือวันสำคัญทางศาสนา

เนื้อที่ของสถานปฏิบัติธรรมอันเงียบสงบกว่า 400 ไร่ ล้วนละลานตาด้วยกลดสีเหลือง และขาวนวลของพระสงฆ์ และพุทธบริษัทที่มาปฏิบัติธรรมกันอย่างแน่ขนัดก่อให้เกิดพุทธานุภาพเป็นที่ประจักษ์มาช้านาน

แม้นจะมีเมฆฝนและลมหนาวอื้ออึงอยู่ก่อนนั้นนานนับสัปดาห์ แต่พอถึงวันสำคัญทางศาสนา ทั้งสายฝนและลมหนาวกลับปลาสนาการไปสิ้นทุกครั้งเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง !!

ปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์เช่นนี้เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่ง "นครจัมปาศรี" ซึ่งถูกเรียกขานว่า "พุทธมณฑลอีสาน" พร้อมที่จะเป็นลานบุญเพื่อรองรับคลื่นพุทธศาสนิกชนอีกครั้ง

สำหรับความเป็นมาของพุทธมณฑลอีสานเกิดขึ้นมาแต่ครั้งการดำรงอยู่ของนครจัมปาศรี ซึ่งเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่มีอายุกว่า 1,300 ปี โดยนครจัมปาศรีเป็นศูนย์กลางอารยธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งในเอเชียอาคเนย์

นักโบราณคดีขุดพบถ้อยคำจารึกเป็นภาษาโบราณบนแผ่นหิน กรุพระ ซากศิลาแลง ปรางค์กู่ สถูป รวมทั้งเรื่องราวเล่าขานในตำนานทำให้มองเห็นภาพในอดีตอย่างแจ่มชัดถึงความเป็นเมืองศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของนครจัมปาศรี

ในทุกวันธรรมสวนะ และวันสำคัญทางพุทธศาสนา คลื่นพระภิกษุสามเณร และสาธุชนจะหลั่งไหลเข้าสู่พุทธสถานริมแม่น้ำสายเล็กๆ ทางด้านตะวันออก และตะวันตกของนครจัมปาศรี ทำให้รอบนครจำปาศรีเต็มไปด้วยคาราวานเกวียนของนักแสวงบุญจากทุกสารทิศ

พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนเรือนหมื่นเรือนแสนล้วนมาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน คือ การนอนค้างแรมในป่าเพื่อรอเข้าร่วมฟังเทศน์ และปฏิบัติธรรมร่วมกันในวันรุ่งขึ้น

จากหลักฐานทางโบราณคดีอันน่าตื่นตะลึงเช่นนี้จึงทำให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 7.58 ล้านบาท เพื่อบูรณะพระธาตุนาดูนให้กลายเป็นพุทธมนฑลอีสานสืบมาจนถึงทุกวันนี้

พระครูโสภณเจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน กล่าวว่า เมื่อมีการก่อสร้างสถูปเจดีย์เสร็จสมบูรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มาทรงประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมสาริกธาตุขึ้นประดิษฐานในองค์สถูปเจดีย์ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2530

ต่อมาคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า พระธาตุนาดูน ตั้งอยู่ใจกลางของภาคอีสาน ทั้งยังมีแหล่งโบราณคดีตั้งอยู่จำนวนมาก และเป็นศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และการเมืองการปกครองมาแต่โบราณ จึงมีมติให้พระธาตุนาดูน เป็นพุทธมนฑลอีสาน เมื่อปีพุทธศักราช 2530 เป็นต้นมา และกำหนดวันสักการะองค์พระธาตุนาดูน คือ วันเพ็ญเดือนสาม หรือ "วันมาฆบูชา" ของทุกปี

นายพินิจ เจริญพาณิช ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ชาวมหาสารคามยึดถือว่า พระธาตุนาดูนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตที่ผูกพันกันมายาวนาน โดยในช่วงเดือนมาฆะของทุกปี คนทั้งจังหวัดมหาสารคามและทั้งภาคอีสานจะจัดงานสักการะพระธาตุนาดูนขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะบูชา และบวงสรวงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ในระดับภาคอย่างแท้จริง

นายแสงประทีป บุญน้อม นายอำเภอนาดูน กล่าวว่า ชาวนาดูนมีความภูมิใจที่ได้เกิดในดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาในอดีต และมีความตั้งใจที่จะสืบสานความเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนนานสืบไป

ดังนั้นชาวนาดูนจึงฝากเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาอันแรงกล้ามาสักการะพระธาตุนาดูนในเทศกาลวันมาฆบูชาปีนี้ เพื่อชำระล้างดวงตจิตให้บริสุทธิ์ และเพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาให้มั่นคงในแผ่นดินสุวรรณภูมิตราบนานเท่านาน

เรื่องโดย เอนก กระแจ่ม

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook