รองผบ.ตร.ลงพื้นที่สอบเหตุไฟไหม้หอพัก17ศพเชียงราย

รองผบ.ตร.ลงพื้นที่สอบเหตุไฟไหม้หอพัก17ศพเชียงราย

รองผบ.ตร.ลงพื้นที่สอบเหตุไฟไหม้หอพัก17ศพเชียงราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ' รุดตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ หอพักนักเรียนหญิง เสียชีวิต 17 คน ที่เชียงราย เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์และสาเหตุเพลิงไหม้

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับ ทหาร ฝ่ายปกครอง ครูอาจารย์ ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุต้นเพลิงไหม้หอพักโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บ 5 ราย ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ครึ่งปูน ครึ่งไม้ ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่ รพ.เวียงป่าเป้า และเดินทางไปประชุมติดตามความคืบหน้าที่ สภ.เวียงป่าเป้า

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ผบ.ตร. ให้ความสำคัญ จึงได้ลงมาเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ ในเบื้องต้นขอเวลาเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อน ส่วนการพิสูจน์เอกลักษณ์ เร่งรัดให้รีบพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลเพื่อให้ทราบว่า เป็นศพใครบ้าง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาเร่งรัดสอบพยานแวดล้อมทั้ง ครูที่เป็นเวรยาม รปภ. นักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ นอกจากนี้ ยังกำชับเรื่องการตั้งศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้สูญเสียทั้งหมด ยืนยันว่าจะเร่งคลี่คลายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขอฝากให้แต่ละโรงเรียนระมัดระวังการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ในช่วงการเปิดเทอมด้วย

 

น.ร.หญิง3คนเหยื่อไฟไหม้ปลอดภัยแล้ว

นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า ผอ.รพ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ หอพักนักเรียนหญิง ที่ ร.ร.พิทักษ์เกียรติวิทยา ที่อาการสาหัส 3 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ 2 คน และอายุ 10 ขวบ 1 คน ล่าสุด อาการปลอดภัยทั้งหมดแล้ว โดยรู้สึกตัวมากขึ้น และอาการที่เข้ามารักษาคือ สำลักควันจนหมดสติ แต่ยังไม่ได้ให้กลับพักฟื้นที่บ้าน เนื่องจากต้องเฝ้าดูอาการต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะแน่ใจ ส่วนผู้บาดเจ็บอื่นๆ อีก 12 ราย ทาง รพ.ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว

นอกจากนี้ ผอ.รพ.เวียงป่าเป้า กล่าวอีกว่า ศพของนักเรียนหญิงทั้ง 17 คน ได้ส่งไปชันสูตรตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่สถาบันนิติเวช เชียงราย เรียบร้อยแล้ว


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook