ตร.สอบปากคำไฟไหม้ร.ร.เชียงรายแล้ว15ปาก

ตร.สอบปากคำไฟไหม้ร.ร.เชียงรายแล้ว15ปาก

ตร.สอบปากคำไฟไหม้ร.ร.เชียงรายแล้ว15ปาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองโฆษก ตร. เผย เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไฟไหม้ ร.ร.เชียงแล้ว 15 ปาก ขณะผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 40 ราย ขณะ ตามจับโรฮีนจา แหกคุก ตม.พังงา ได้แล้ว 14 ราย วิสามัญดับ 1

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้อาคารบ้านพักนักเรียน ภายในมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ว่า พนักงานสอบสวน สภ.เวียงป่าเป้า ได้สอบปากคำพยาน อาทิ เจ้าของโรงเรียน ครูเวร แม่บ้าน นักเรียนที่รอดชีวิตไปแล้วทั้งหมด 15 ปาก ยืนยัน หากพยานหลักฐานปรากฏว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบอาคารดังกล่าวด้วยว่าถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ หรือไม่ เนื่องจากลักษณะการเสียชีวิตของนักเรียนอยู่ในจุดเดียวกันจำนวนมาก พร้อมระบุว่าขณะนี้มีผู้เสียหายจากเหตุดังกล่าวเดินทางเข้าแจ้งความแล้ว จำนวนกว่า 40 ราย ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะถึงจะพิสูจน์ทราบทั้งหมด

ทั้งนี้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า กรณีที่ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องการชดใช้และเยียวยานั้น ตามกฎหมายสามารถฟ้องแพ่งได้ ซึ่งกฎหมายไทยค่อยข้างครอบคลุมและดำเนินการทั้งทางอาญาและแพ่งได้ ส่วนกรณีผู้เสียหายรายใดที่มีฐานะยากจนทำให้ไม่มีช่องทางในการเรียกร้องค้าเสียหายนั้น ผู้เสียหายสามารถขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ยังได้เปิดเผยความคืบหน้า กรณีผู้ต้องขังชายชาวโรฮีนจา จำนวน 21 คน ได้ใช้ใบเลื่อยเหล็ก ตัดตาข่ายเหล็กห้องควบคุมตัวบริเวณชั้น 2 ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดพังงา ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีไป ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้วทั้งหมด 14 ราย เสียชีวิต 1 ราย เนื่องจากผู้ต้องหาพยายามต่อสู้และทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงถูกวิสามัญ ทำให้ยังเหลือที่ต้องติดตามตัวอีก 6 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดคอยให้การช่วยเหลือ หรือหาเส้นทางหลบหนีให้แต่อย่างใด ส่วนเหตุดังกล่าวจะเกิดจากความหละหลวมของเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งในส่วนของการดำเนินการทางวินัยนั้นมีขั้นตอนกระบวนการอยู่แล้ว



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook