รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผย หาก 'พระธัมมชโย' ไม่มามอบตัวภายใน 26 พฤษภาคม นี้ สามารถบุกจับถึงวัดได้ ลั่น จนท.ต้องยึดตามกฎหมาย ไม่ควรหวาดกลัว ขณะที่ ทนายความเดินทางมาพบ ดีเอสไอ สอบถามวงเงินประกันตัว แต่ยังไม่ยืนยันอบตัวพรุ่งนี้
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผย กรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ออกหมายจับ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า หากไม่มารับทราบข้อกล่าวหาฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ภายในวันที่ 26 พฤษภาคม ตามที่นัดหมายนั้น เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปจับกุมที่วัดซึ่งถือเป็นการปฏิบัติเหมือนการจับกุมบุคคลตามหมายจับทั่วไป โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่ทำตามกฎหมาย หรือไม่กล้าเข้าไปจับกุม ก็ไม่สมควรมาเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนในคดีนี้ ให้ลาออกไป เพราะเจ้าหน้าที่สอบสวนไม่สมควรหวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นการทำงานตามอำนาจหน้าที่
นอกจากนี้ ยังระบุว่า ส่วนตัวมีความเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย หรือจะมีการก่อม็อบเพื่อขัดขวางการทำงาน แต่หากเข้าไปแล้ว มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ก็คงประเมินสถานการณ์กันเองได้ เพราะเป็นการทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหากมีผู้มาขัดขวางการทำงานจนเกิดความเสียหายมากกว่าการบุกเข้าไปจับกุม ก็สมควรพิจารณาเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่
ขณะที่ นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เดินทางมาพบ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ กรณี พระธัมมชโย ถูกออกหมายจับในคดีสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร โดยเปิดเผยว่า การมาพบครั้งนี้ เพื่อพูดคุยเรื่องข้อกฎหมายว่า หาก พระธัมมชโย มามอบตัวจะต้องใช้เงินประกันตัวจำนวนเท่าไร ซึ่ง ดีเอสไอ ระบุว่า เป็นเงินประกัน
จำนวน 5 ล้านบาท ส่วนจะเข้ามอบตัวในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) หรือไม่นั้น ทีมทนายความไม่มีส่วนตัดสินใจเรื่องดังกล่าว แต่เบื้องต้นจะนำเรื่องที่พูดคุยวันนี้ กลับไปแจ้งทางวัดพระธรรมกาย อีกครั้ง
ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ ระบุสั้น ๆ ว่า วงเงินประกัน 5 ล้านบาท พิจารณาตามความหนักเบาของคดีและมูลค่าความเสียหาย ส่วนเรื่องเตรียมสถานที่สำหรับวันพรุ่งนี้นั้น ไม่ขอตอบในเรื่องดังกล่าว โดยขอให้ข้อมูลในวันพรุ่งนี้ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้น