นายกฯโยนยธ.จัดการปมพระธัมมชโยยึดกม.

นายกฯโยนยธ.จัดการปมพระธัมมชโยยึดกม.

นายกฯโยนยธ.จัดการปมพระธัมมชโยยึดกม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี โยน ยธ. จัดการปม 'พระธัมมชโย' ยึดตามกฎหมาย ยันส่วนตัวไม่ทะเลาะกับพระ ไม่เข้าข้างใคร ขออย่าปลุกระดมมวลชนมาต่อสู้กัน รอ EU แถลง ผลประเมินแก้ IUU

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง พระธัมมชโย ให้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ภายในวันที่ 26 พ.ค. นี้ ว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม กฎหมายว่าอย่างไร ก็ตามนั้น ส่วนตัวไม่รบกับพระ เพราะเป็นไทยพุทธ แต่ใครทำให้เกิดความแตกแยกในพุทธศาสนา ก็ไปคิดเอาเอง ซึ่งทุกอย่าง มีถูกและผิดแต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเชื่อว่าพระเหมือนกับทหารที่มีวินัยข้างนอก ส่วนพระก็มีวินัยสงฆ์จึงไม่เข้าข้างใครอยู่แล้ว และขออย่าปลุกระดมคนมาต่อสู้กันเองในเรื่องศาสนา หากทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายและกติกาบ้านเมืองก็จะสงบสุข และขอสื่อมวลชนอย่าขยายความเพื่อสร้างความขัดแย้ง

ส่วนกรณีที่สหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU ของประเทศไทย ว่า รอให้ทาง EU เป็นผู้แถลง ส่วนตัวไม่อยากพูด แต่ยืนยันว่า ไทยได้ดำเนินการทุกอย่างดีที่สุด เนื่องจาก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. ได้ปรับโครงสร้างใหม่ โดยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบกติกาที่เป็นสากล โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ขับเคลื่อนอีกหลายคณะ ดังนั้นควรรอฟังผล เนื่องจากการพิจารณาตัดสินจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน แต่เชื่อว่าทาง EU เห็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาและความก้าวหน้าในการดำเนินการไทยในหลายเรื่อง ขณะเดียวกัน หากมีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

นายกฯยืนยันไม่เคยจำกัดสิทธิมนุษยชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวกับประชาชนระหว่างลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า วันนี้ หลายประเทศนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ และต่างประเทศส่วนใหญ่อิจฉาที่ไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ดี ซึ่งส่วนตัวฟังแล้วสะเทือนใจ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปทำลายประวัติศาสตร์เพื่อนำไปสู่อนาคต หากเป็นประชาธิปไตยจะต้องเป็นประชาธิปไตยแบบเท่าเทียม แบ่งบัน และมีคุณธรรม พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยกำจัดสิทธิมนุษยชน จึงขอให้คิดใหม่ทำใหม่ มองอนาคต และอย่าเข้าสู่วังวนความขัดแย้งเดิม เพื่อเข้าสู่การปฏิรูปประเทศ 20 ปี

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ได้เข้ามาขจัดความขัดแย้ง เพราะหากไม่ยุติ ประเทศก็จะล้มเหลว และถ้าหากความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกจะทำอย่างไร ซึ่งในวันนี้ ทั้งในเรื่องการลงประชามติ และการเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนคิดเอง โดยเรียนรู้และแยกแยะให้ได้ ว่าที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น ขณะเดียวกัน ย้ำว่า กฎหมายจะสร้างความเท่าเทียม หากไม่รับกฎหมาย จะกล่าวหาว่า รัฐบาลใช้กฎหมาย 2 มาตรฐานไม่ได้ และยืนยันว่า จะใช้อำนาจเท่าที่จำเป็นในการบริหารงานเท่านั้น

นอกจากนี้ ในเรื่องความขัดแย้ง ขอร้องวันนี้อยากให้หยุด เพราะเป็นบ่อเกิดของปัญหาทุกเรื่อง และยืนยันว่า เข้ามาไม่ต้องการอะไรจากประชาชน แต่อยากให้ช่วยกันทั้งหมด โดยเฉพาะข้าราชการที่ต้องสร้างความเข้าใจ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม ซึ่งถือเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

 

นายกฯย้ำไม่ใช่นักการเมืองกดดันคนตั้งความหวังสูง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ใช่นักการเมือง แม้จะมีคนมาชื่นชม ถือว่าเป็นความกดดันที่เป็นความหวังให้กับประชาชนเหล่านั้น จึงจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ และขอให้ทุกคนช่วยกันลดความขัดแย้ง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เดินหน้าปฏิรูปไปด้วยกันทั้งรัฐบาลและข้าราชการ อาจจะคิดไม่ตรงกันบ้าง ก็ไม่เป็นไร ก็ช่วยกันหาทางคิดให้ตรงกัน ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า เข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน และขอให้สื่อมวลชนเข้าใจการเข้ามาทำหน้าที่ของตนเอง เนื่องจากมาในสถานการณ์ไม่ปกติ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า หากเปรียบการทำงานตอนแรกเหมือนขับรถบนถนนที่ขรุขระ ตอนแรกต้องกระโดดไปมาถนนไม่ราบรื่น เพราะความขัดแย้งมีสูง หากลดความขัดแย้งลงบ้าง แต่ไม่เรียบเหมือนถนนข้างนอก หากทุกคนไม่สงบ ก็ต้องวิ่งบนถนนที่ขรุขระต่อไปไม่ทันโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook