จตุพรไม่วิตกกับผลประชามติชี้เป็นผลดีปท.

จตุพรไม่วิตกกับผลประชามติชี้เป็นผลดีปท.

จตุพรไม่วิตกกับผลประชามติชี้เป็นผลดีปท.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'จตุพร' ปลุก ปชช. อย่าหลงเชื่อ ปชต. จอมปลอม ถามนายกฯ พูดจากใจหรือไม่ 'ไม่ต้องการทำลายประชาธิปไตย' ' ไม่วิตกกับผลประชามติ ชี้ หากประชาชนมาใช้สิทธิ์ถึง 80% ย่อมเป็นผลดีต่อประเทศชาติ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า ไม่ต้องการทำลายประชาธิปไตย และสัญญาจะปกป้องธุรกิจต่างชาติให้ดีที่สุดนั้น ส่วนตัวมองว่าใครก็พูดได้ แต่เป็นเสียงออกจากปากหรือจากใจ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนได้ชัดเจน วันนี้ประเทศไทยไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แม้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่ามีประชาธิปไตยถึงร้อยละ 99.99 ก็ตาม แต่ทางปฏิบัติแล้วไม่ใช่ เพราะความแตกต่างระหว่างรัฐบาลประชาธิปไตย กับไม่เป็นประชาธิปไตย คือ ประชาธิปไตยย้ายข้าราชการได้เพียงคนเดียวในระดับ ซี 11 แต่นายกรัฐมนตรี และฐานะหัวหน้า คสช. สั่งย้ายได้ทุกระดับ ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นรัฐบาลจากประชาธิปไตย

นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ไทยต้องเผชิญกับปฏิบัติการข่าวสาร หรือ ไอโอ ของทหาร ซึ่งต้องยอมรับถึงการโกหก แต่เมื่อประชาชนยึดมั่นปลายทางเรื่องประชาธิปไตยแล้ว จึงต้องเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าไปหลงกับพวกประชาธิปไตยปลอมและเผด็จการจริง ซึ่งจะทำให้แบกทุกข์สาหัสกับปัญหาเศรษฐกิจอีก

นอกจากนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึงการทำประชามติว่า ส่วนตัวไม่วิตกกับผลที่จะออกมา แม้กลไกฝ่ายบ้านเมืองแฝงไปทั่วพื้นที่ แต่ไม่หวั่นไหวกับความได้เปรียบของฝ่ายกลไกรัฐเหล่านั้น ถ้ามีคนมาใช้สิทธิ์เกินร้อยละ 80 แล้ว ก็ยังเชื่อมั่นกับผลจะออกมาด้านดีอยู่

นายจตุพร ยังกล่าวว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติมากถึง 50.8 ล้านคน เมื่อแยกตามภูมิภาคสามารถใช้สิทธิ์ตามดุลยพินิจของแต่ละคนแล้ว ประชาชนจะได้ใช้โอกาสนี้เพื่อตัดสินว่า จะเอาการปกครองระบอบใด ดังนั้น จึงเชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์ และจะตั้งศูนย์ปราบโกงวันที่ 5 มิ.ย. นี้ โดยกระจายทั่วประเทศให้ประชาชนมาแจ้งการโกงประชามติ เพื่อประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในขั้นตอนถัดไป


อย่างไรก็ตาม วันนี้เส้นทางประชาชนเดินมาถึง 2 ทาง แต่ไม่ใช่ความแตกแยกกัน แต่เป็นทางระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ โดยประชาชนจะต้องตัดสินใจเลือก ซึ่งทุกฝ่ายต้องยอมรับผลการเลือกเช่นกัน ดังนั้น การประโคมข่าวว่า ประชามติจะผ่านหรือไม่ก็มีเลือกตั้งปี 2560 แต่สิ่งต้องคิดใคร่ครวญ คือ อนาคตของลูกหลานจะอยู่ในสังคมทนทุกข์อย่างไรหรือไม่


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook