สาวใหญ่ยืนรดน้ำต้นไม้ถูกยิงดับ ญาติสงสัยเพื่อนบ้านวัย 76 ปี

(28 พ.ค.) เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.ณรงค์ แก้งคำ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าบ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลสีบัวทอง อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้าน พบศพหญิงสวมเสื้อกล้ามนุ่งกางเกงขาสั้นนอนหงายเสียชีวิตคาที่ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดบริเวณใต้รักแร้ด้านซ้ายกระสุนทะลุหน้าอกซ้ายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ทราบชื่อต่อมา น.ส.สำเนา อายุ 49 ปี ภรรยาเจ้าของบ้าน

จากการสอบถามนายสำเริง อายุ 49 ปี สามีผู้ตาย เปิดเผยว่า คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นนายเจือ อายุ 76 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม เนื่องจากเคยมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำจนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาห้ามปรามกันอยู่หลายครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้านผู้เสียชีวิตยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ตนเองได้ยินคล้ายเสียงปืนจึงออกมาดูพบภรรยานอนเสียชีวิตคาที่จมกองเลือด จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายเจือ ตนเองเชื่อว่ายังคงหลบอยู่ในบ้าน

ทางด้านพ.ต.ท.จตุพล จึงได้พูดเกลี้ยกล่อมผ่านทางไมโครโฟนของรถตำรวจให้นาย เจือ ออกมาพูดคุย และยอมมอบตัว พร้อมกับกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทหาร เข้าปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวแต่ก็ยังไม่เป็นผล จึงได้นำน้องสาวของนายเจือ มาพูดหว่านล้อมเพื่อให้นายเจือใจอ่อน แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับออกมาแต่อย่างใด

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์หาลูกสาวของนายเจือ ให้ช่วยพูดให้พ่อออกมามอบตัว โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จนนายเจือ เริ่มใจอ่อนเดินออกมามอบตัวพร้อมกับเหน็บอาวุธปืนลูกซองสั้นไว้ที่เอวของตนเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพูดให้วางอาวุธโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดปืนเข้ามาทางกำแพงด้านข้างเข้าชาร์จจับตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้เอาไว้ได้ จากการตรวจค้นในบ้านพบอาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก ซึ่งนายเจือ ปฏิเสธว่าตนเองนอนอยู่ในบ้านและไม่ใช่คนที่ก่อเหตุสลดดังกล่าว

ทางด้าน ร.ต.อ.ณรงค์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำสามีของผู้เสียชีวิต และพยานแวดล้อม เบื้องต้นไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ แต่ทางญาติคาดว่านาย เจือ เป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากทั้ง 2 บ้าน มีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ ประกอบกับนายเจือ เป็นคนอารมณ์ร้อนชอบใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่อยู่ป็นประจำ

ส่วนนายเจือ ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุ ซึ่งจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์รายละเอียดต่างๆ ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป