พีระศักดิ์ยันเร่งแจงคำถามพ่วงรธน.หลังอบรมครูก.สับสน

รองประธาน สนช. ยัน ต้องเร่งชี้แจงคำถามพ่วงประชามติ หลังเกิดความสับสน อบรม ครู ก. ไม่ห่วงเรื่องงบประมาณ ย้ำใช้คุ้มค่า มอง รบ. - คสช. ปลดล็อกให้นักการเมืองไปนอกได้ เป็นเรื่องดี

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 ในฐานะประธานโครงการ สนช.พบประชาชน กล่าวถึงกรณีที่วิทยากรในการชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญระดับจังหวัด หรือ ครู ก. และระดับอำเภอ หรือ ครู ข. เห็นว่า คำถามพ่วงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของ สนช. ทำให้เกิดความสับสนในสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องดังกล่าว เป็นสิ่งที่ต้องอธิบายทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ได้เปิดโอกาสให้คำถามพ่วงจะสอดคล้อง หรือสวนทางกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญได้ และเป็นอำนาจของประชาชนจะตัดสินใจว่า เห็นด้วยกับคำถามพ่วงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ สนช. เอง ได้ส่งตัวแทนชี้แจงถึงสาระสำคัญของคำถามพ่วงแก่ ครู ข. และ ครู ก. ร่วมกับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ส่วนเรื่องการจัดสรรงบประมาณในการชี้แจงประเด็นคำถามพ่วงนั้นรัฐธรรมนูญชั่วคราวได้ให้การคุ้มครอง สนช. ในการลงพื้นที่ชี้แจงประเด็นคำถามพ่วงประชามติ ให้สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเมื่อมีการลงพื้นที่ก็จำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่ง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ได้กำชับให้สมาชิกใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่ามากที่สุด

นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี ได้ให้บุคคลที่เคยถูกคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ โดยระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเห็นว่าการจะจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลก็ควรจะกระทำเท่าที่จำเป็น มีขอบเขตที่ชัดเจน และในการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึง ส่วนตัวได้เสนอให้เร่งดำเนินการกับบุคคลที่เคยถูกคำสั่งมาตรา 44 ให้พักกลับปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หรือโยกย้ายมาช่วยงานราชการ โดยหากสามารถพิสูจน์ว่าบุคคลใดไม่มีความผิด ให้ปลดล็อก และคืนตำแหน่งให้โดยเร็วที่สุด

ส่วนการที่พรรคการเมือง ออกมาเรียกร้องให้มีการผ่อนปรน คำสั่ง คสช. ให้สามารถประชุมพรรคได้นั้น นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า บรรยากาศของประเทศขณะนี้ยังไม่สมควรให้มีการรวมตัวกันมากนัก เพราะยังอยู่ในช่วงอ่อนไหว หากมีการรวมกลุ่มกันอาจเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายจนต้องมีการผ่อนปรนกันอีกในภายหลัง จึงเห็นควรให้รอก่อน