นายกฯถกG77ยันไม่ไปไหนจนปท.สงบย้ำใช้กม.นำลต.

นายกรัฐมนตรี เปิดการประชุม กลุ่ม 77 มั่นใจ สามาถขับเคลื่อนประเทศเดินหน้า ย้ำบังคับใช้กฏหมายนำสู่การเลือกตั้ง ไม่รังแกนักการเมือง ยันจะอยู่จนสงบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวระหว่างเปิดการประชุม กลุ่ม 77 เพื่อนำเสนอการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับภาคธุรกิจ โดยระบุว่า แม้ตนเองจะเป็นอดีตข้าราชการทหาร แต่มั่นใจว่า จะสามารถบริหารขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตได้ ซึ่งทหารไม่ได้มีไว้เพื่อสู้รบกับใคร และไม่ได้มีไว้เพื่อจับนักการเมืองด้วย แต่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล สิ่งสำคัญคือ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อเดินหน้าประเทศ พร้อมยอมรับว่า กลไกการเมืองของประเทศไทย ยังมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงทำให้เกิดความสับสนทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ประเทศไทยกำลังเร่งแก้ปัญหาปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยยืนยัน ไม่ได้รังแกนักการเมืองแต่อย่างใดซึ่งการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 44 และกฎหมายพิเศษ ในการเรียกนักการเมืองมาปรับทัศนคติเพื่อให้เกิดความสงบสุขและนำไปสู่การเลือกตั้ง เพราะประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า จะอยู่บริหารประเทศจนกว่าจะเกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งหากไม่มีความสงบก็จะไม่ไปไหน และจะอยู่ไปจนถึงปีหน้าด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ประเทศไทย มีความพร้อมต่อการทำงานร่วมกันกับประเทศต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม และต้องเร่งทำงานที่รวดเร็ว จึงได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน และประเทศไทย ได้นำแนวการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ในการปฏิรูประบบโครงสร้างเศรษฐกิจสู่โมเดลประเทศไทย 4.0 เพื่อหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางและก้าวสู่ประเทศที่มีรายได้ระดับสูงภายใน 20 ปี ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลไทย โดยใช้พลังกลไกประชารัฐ ภายใต้วิสัยทัศน์ "มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" และยินดีที่สถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย

ปี 59 ดีขึ้น แต่มีบางกลุ่มที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่น่าเชื่อ ก็คงต้องไปเชื่อ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ชอบวิจารณ์เศรษฐกิจไทย ซึ่งไม่ทราบว่าเก่งมาจากไหน และจบมาจากสถาบันใด