คำต่อคำ วิฑูรย์ นามบุตร ประกาศลาออกจากรมว.พม. ตัดตอนปลากระป๋อง ยอมพลีชีพเพื่อพรรคปชป.

คำต่อคำ วิฑูรย์ นามบุตร ประกาศลาออกจากรมว.พม. ตัดตอนปลากระป๋อง ยอมพลีชีพเพื่อพรรคปชป.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
... ตัดสินใจด้วยตัวเอง เพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผมรักและเทิดทูนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ผมอยู่มาตลอด และเพื่อประโยชน์ของท่านนายกฯ ที่จะเดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไป ... ยอมรับว่า เจ็บปวด เพราะการดำเนินการต่างๆนั้น ผมเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร การแจกถุงยังชีพที่จังหวัดพัทลุง ผมไม่รู้ว่ามีของไม่ดีอยู่ในถุงยังชีพนั้น ผมเห็นใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ... หมายเหตุ :

นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) แถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังจากมีปัญหากรณีถุงยังชีพของกระทรวง พม. บรรจุปลากระป๋องเน่า เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ห้องแถลงข่าวตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล

---------------------------------------

นายวิฑูรย์ นามบุตร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)

ขอเรียนอย่างนี้ว่า ทุกอย่างได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง เพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ผมรักและเทิดทูนพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่ผมอยู่มาตลอด และเพื่อประโยชน์ของท่านนายกฯ ที่จะเดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไป ซึ่งการทำงานในขณะนี้ กำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง และเพื่อประโยชน์ของประชาชน ผมได้แสดงออกถึงความจริงใจ ตั้งใจ บริสุทธิ์ใจ ที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เคารพในความรู้สึกของประชาชน กระแสต่างๆที่ให้แสดงความรับผิดชอบ

ผมยืนยันในข้อเท็จจริงว่า เรื่องถุงยังชีพที่จังหวัดพัทลุง ไม่มีเรื่องทุจริต ไม่มีเรื่องของการโกง และผมขอยืนยันเรื่องการตรวจสอบ ผมพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบ พร้อมให้ความร่วมมือ และจะไปให้ปากคำ ถ้อยคำ ข้อมูล ข้อเท็จจริงทุกอย่างในกระบวนการตรวจสอบ

ผมเรียนไปยังพี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานี ที่ผมเป็นผู้แทนมาตลอดระยะเวลา 24 ปี ผมเป็นส.จ.มา 2 สมัย เป็นส.ส.มา 7 สมัย และเป็นผู้แทนฯที่ไม่สอบตก และอยู่พรรคการเมืองพรรคเดียวมาตลอด ผมต้องการให้พี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานีที่เลือกผมมาทั้ง 9 ครั้ง ได้มีความรู้สึกภาคภูมิใจ ว่านักการเมืองลูกอีสานเลือดอุบลฯคนนี้ ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง มีมาตรฐานทางจริยธรรมทางการเมืองซึ่งจะต้องอยู่เหนือกฎหมาย

การลาออกของผมครั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่า เจ็บปวด เพราะการดำเนินการต่างๆนั้น ผมเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร การแจกถุงยังชีพที่จังหวัดพัทลุง ผมไม่รู้ว่ามีของไม่ดีอยู่ในถุงยังชีพนั้น ผมเห็นใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ผมเองก็เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง ไม่ไปซ้ำเติมประชาชนเด็ดขาด เพียงแต่ผมเองไม่ได้รู้ว่าของข้างในมันไม่ดี และก็ต้องเรียนไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไปด้วยครับว่า สิ่งที่เอาไปนั้น มันไม่ใช่ไม่ดีทั้งหมด อะไรที่ดีชาวบ้านก็เอาไปใช้ อะไรที่ไม่ดี พวกผมเองพอรู้ว่ามีปัญหา ผมก็รีบให้เจ้าหน้าที่เก็บคืน ส่วนที่เหลือก็ไม่ให้มีการแจกจ่ายอีกต่อไป เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ

@ สาเหตุที่แท้จริงการลาออกคืออะไร

ขออนุญาตไม่ตอบคำถาม จะชี้แจงในโอกาสต่อไป

@ หากผลสอบไม่ผิด นายกฯจะให้กลับมานั่งตำแหน่งเดิมหรือไม่

ขอให้รอผลสอบออกมากน

@ ก่อนหน้านี้ได้ยืนยันในสภาว่าจะไม่ลาออกเหตุใดจึงตัดสินใจลาออก

เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบจะไม่มีเรื่องของตำแหน่งหรือการกดดันทางการเมือง จะได้ทำงาน สืบสวนสอบสวนด้วยความสบายใจ และการตัดสินใจครั้งนี้ได้แจ้งนายกฯแล้ว

-------------------------------------

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายกรัฐมนตรี

ก่อนลาออก นายวิฑูรย์ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผม ซึ่งสิ่งที่ท่านยึดถือคือประโยชน์ของการทำงานของรัฐบาลต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด ฉะนั้นการตัดสินใจครั้งนี้ของนายวิฑูรย์จึงเป็นไปเพื่อให้การทำงานของรัฐบาลมีความราบรื่น ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้ยกเลิกค่านิยมว่า การลาออกเป็นการยอมรับผิด เพราะผิดหรือไม่ผิดเป็นเรื่องที่องค์การต่างๆ จะเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งนายวิฑูรย์เองก็ได้ให้หน่วยงานต่างๆทั้ง คณะกรรมาธิการ (กมธ.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผมจึงอยากขอบคุณที่นายวิฑูรย์ได้แสดงออกถึงจิตวิญญาณการสนับสนุนให้รัฐบาลได้ทำงานต่อไป

สำหรับคนที่จะมาแทนนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะพิจารณา และตั้งใจว่าจะให้ได้คนใหม่ภายในวันนี้เลยเพื่อให้งานเดินได้ต่อเนื่อง บ่ายนี้ก็จะคุยในที่ประชุมกรรมการบริหารและส.ส.ปชป. คิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เรียบร้อย และเบื้องต้นจะปรับครม.แค่คนเดียว

ส่วนกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่แจกเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ซึ่งเป็นงบประมาณของพม.พร้อมแนบนามบัตรให้กับชาวบ้านที่ จ.นครราชสีมา มีความแตกต่างกัน เพราะกรณีของนายวิฑูรย์ แม้ยังไม่มีการใช้เงินของรัฐบาล แต่บังเอิญว่าความเสียหายไปตกอยู่กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้ว แต่กรณีนายบุญจงยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น เพียงแต่เกิดคำถามว่าไปสร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นเงินของตัวรัฐมนตรี ทั้งที่จริงไม่ใช่ เพราะงบนี้ตั้งมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว เรื่องนี้ผมได้คุยกับนายบุญจงแล้ว พบว่ามีการยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว เชื่อว่าไม่น่าจะใช้เวลานาน เพราะไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไร มีทั้งภาพถ่ายและภาควีดีโอ หากตรวจสอบแล้วมีความผิด ค่อยดำเนินการต่อไป

ส่วนที่ว่าจะเกิดเสียงครหาว่าไม่กล้าแตะนายบุญจง เพราะเป็นคนของกลุ่มเพื่อนเนวินนั้น ไม่เกี่ยวหรอกครับ ผมตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เรื่องนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็เตือนนายบุญจงไปแล้วว่า ต่อไปกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับนายบุญจงอย่าทำให้เกิดความสงสัยอีก เมื่อถามย้ำว่าไม่ห่วงหรือจะถูกมองว่าอุ้มนายบุญจง นายอภิสิทธิ์ กล่าว่า "ผมไม่ได้อุ้มใครนะครับ แต่ประเด็นของนายบุญจงไม่มีความเสียหายเกิดกับประชาชน มีคนทักท้วงเรื่องความไม่เหมาะสมเท่านั้นเอง

----------------------

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

รองนายกรัฐมนตรี

@ มีข่าวว่าแกนนำพรรคประชาธิปัตย์กดดันให้นายวิฑูรย์ ลาออกจากปัญหาเรื่องการแจกปล่ากระป๋องเน่า

ไม่ใช่การกดดัน นายวิฑูรย์จะหนักใจแค่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ ต้องหนักใจทั่วๆ ไป เพราะเมื่อทำงานแล้วเกิดปัญหาในงานที่รับผิดชอบ ก็ต้องอธิบายชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นธรรมดา โดยทั้งหมดนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องรับผิดชอบ ดังนั้นต้องให้โอกาสนายกฯ ได้ใช้ความคิดในการพิจารณา ซึ่งไม่ว่านายกฯ ตัดสินใจอย่างไร ผมก็ต้องเอาอย่างนั้น

@ มีใครบีบนายวิฑูรย์ให้ตัดสินใจหรือไม่

ไม่มี พรรคผมไม่มีเรื่องบีบกัน เป็นเรื่องของนายวิฑูรย์เอง ส่วนคนที่จะมาแทนนายวิฑูรย์นั้น ต้องไปประชุมพรรคกันก่อน

@ จะยังเป็นโควตาอีสานอยู่หรือไม่

ต้องทำตามกระบวนการของพรรค คือไปหารือกันในพรรค

@ การพิจารณาในกรณีนายวิฑูรย์ กับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่

สองคนนี้เป็นคนละกรณีกัน กรณีนายวิฑูรย์เป็นเรื่องกระทบความรู้สึกประชาชนมากกว่า เพราะคนมีความรู้สึกว่าในภาวะประสบภัยและราชการนำของไปช่วยเหลือ แต่ได้ของไม่มีคุณภาพ คนก็เสียความรู้สึก ประชาชนเสียประโยชน์ แต่กรณีนายบุญจงเป็นการไปทำหน้าที่ประธานแจกของและเงินช่วยเหลือ ซึ่งชาวบ้านก็ได้ของกันครบถ้วน ไม่มีใครมาพูดว่าของขาดไป หรือไม่มีคุณภาพ จึงไม่เกิดความเสียหายในความรู้สึกประชาชนตรงนั้น แต่ที่มีปัญหาคือมีการแจกนามบัตรด้วย ทำให้คนเข้าใจว่าเอาของส่วนตัวไปแจก ทั้งที่ผู้รับก็รู้ว่าไม่ใช่ของของนายบุญจง

@ นายบุญจงมีโอกาสรอด แต่จะปรับนายวิฑูรย์ออกเพียงคนเดียว

ผมก็ว่ามีโอกาสทั้ง 2 คนแหล่ะครับ

@ ในฐานะผู้เชิญกลุ่มเพื่อนเนวินเข้าร่วมรัฐบาล หากไปกระทบกระทั่งนายบุญจง จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่

อยู่ที่ความถูกผิด ถ้าเห็นว่าเป็นเรื่องผิด จะกระทบใครก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าเห็นว่าไม่ผิด ก็ต้องยอมรับ

อย่างไรก็ตาม การลาออกของนายวิฑูรย์คงไม่เป็นการสร้างมาตรฐานและกดดันโดยตรงไปยังนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย

@ แต่มาตรฐานที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไว้ จะกดดันไปยังพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่

คนละเรื่องกันนะ

@ แต่นายบุญจงเองก็ต้องชี้แจงสังคมด้วย

นายบุญจงก็ต้องชี้แจง

-------------------------------------------------------

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook