สธ.ไฟเขียวบริการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาล

สธ. ไฟเขียวบริการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสานในโรงพยาบาล ยกเป็นสาขาที่ 12 ระบบบริการภาครัฐ

นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้การพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็น 1 ใน 13 สาขาหลักตามแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มุ่งเน้นการใช้ภูมิปัญญาไทย การแพทย์แผนไทยที่โดดเด่นและมีข้อมูลวิชาการสนับสนุน มาร่วมใช้ดูแลผู้ป่วยแบบผสมผสานกับแพทย์แผนปัจจุบันและสหวิชาชีพ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน 

โดยตั้งเป้าให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป จัดคลินิกบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานรักษาโรคทั่วไปและเฉพาะโรค ได้แก่อัมพฤกษ์/อัมพาต ไมเกรน ข้อเข่าเสื่อม ภูมิแพ้ อย่างน้อย 1 คลินิก ให้ได้ร้อยละ 80 และมีบริการการแพทย์แผนไทยในแผนกผู้ป่วยนอกคู่ขนานกับการแพทย์แผนปัจจุบันร้อยละ 70 พัฒนาโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย เพิ่มบริการคลินิกผู้ป่วยนอกและหอผู้ป่วยด้วยแพทย์แผนไทยครบทุกแห่ง และมีแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลครอบคลุมทั้ง 9,000 แห่ง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการการแพทย์ผสมผสานมากขึ้น

นอกจากนี้ ได้มีการวิจัย การเก็บรวบรวมองค์องความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยและการใช้ยาสมุนไพรอย่างเป็นระบบ มีฐานข้อมูลสามารถสืบค้นและนำไปพัฒนาต่อยอดเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพได้ และเป็นแหล่งฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรด้านแพทย์แผนไทยให้มีคุณภาพ เป็นการอนุรักษ์และยกระดับภูมิปัญญาไทย ช่วยให้ประเทศและประชาชนพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน 

สำหรับการให้บริการเน้นโรคที่เป็นจุดแข็งของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และมีแนวทางการรักษา (CPG) ชัดเจน ได้แก่ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคสะเก็ดเงิน การดูแลมารดาหลังคลอด โรคกระดูกและข้อ โรคตับแข็ง และโรคพาร์กินสัน โดยแพทย์แผนไทยจะตรวจ วินิจฉัยระบบธาตุทั้ง 4 และตรีโทษ เส้นสิบ ดูสีผิว ลิ้น และการบำบัดรักษาด้วย การนวด การอบ การประคบ การกดจุดปรับสมดุลแต่ละที่ การเผายา ย่างยา รวมทั้งการใช้ยาสมุนไพรที่ปรุงยาตามทฤษฎีแพทย์แผนไทยและตามคัมภีร์ เฉพาะผู้ป่วยแต่ละรายด้วย