พระพุทธะอิสระแจ้งตร.เอาผิดศิษย์วัดพระธรรมกาย

หลวงปู่พุทธะอิสระ หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด 'องอาจ-คณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย' ต่อ ตำรวจ สภ.คลองหลวง หลายข้อหา

พระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้ดำเนินคดี ข้อหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน กับ นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย และ นางกรรณิกา อยู่ศรี ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย กรณีแถลงข่าวกล่าวหาว่า พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปฏิบัติหน้าที่ 2 มาตรฐาน ไม่เร่งดำเนินคดีกับ พระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาในคดีกบฏ จากการชุมนุมทางการเมือง ทั้งที่คดีดังกล่าว ตนได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ และเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของศาล คดีจึงไม่ได้อยู่ในอำนาจของ ดีเอสไอ แล้ว การออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าวจึงเข้าข่าย หมิ่นประมาทและดูหมิ่นพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ 

พร้อมกันนี้ พระพุทธะอิสระ ยังแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ คณะศิษยานุศิษย์ ของวัดพระธรรมกายทุกคน ในความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน และความผิดฐานร่วมกันข่มขืนใจพนักงานสอบสวน ให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามหมายค้นและหมายจับของศาล จากรณี ดีเอสไอ เข้าตรวจค้น จับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยในวันพรุ่งนี้ (28 มิถุยายน 59) เตรียมเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ในประเด็นดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ยังได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินกับ นายศักดิ์ชัย เก่งกิจโกศล ประธานกองทุนเฉพาะกิจ วัดพระธรรมกาย กรณีพบว่า มีการเรี่ยไร่เงินผิดกฎหมายด้วย ไปชดใช้เงินค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากคดี สหกรณ์ เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น โดยนำพยานหลักฐานเอกสารและเทปคำให้สัมภาษณ์มามอบให้กับพนักงานสอบสวนด้วย

ทั้งนี้พระพุทธอิสระ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ คณะศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย นำคณะสื่อมวลชน เข้าไปตรวจค้นอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย บริเวณอุโบสถของวัดพระธรรมกาย เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีอาวุธ หรือ สิ่งผิดกฎหมาย ตามที่มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวนั้น สังคมไม่อยากรับรู้ แต่มองว่า สิ่งที่สังคมอยากรู้คือ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาส วัดพระธรมกาย อยู่ที่ไหนมากกว่า หากเป็นไปได้จึงอยากเรียกร้องให้คณะศิษยานุศิษย์ของวัด พาสื่อมวลชนไปดูมากกว่าการมาค้นวัด

ส่วนกรณีที่ คณะศิษยานุศิษย์ของวัดบางคน นำภาพผู้สื่อข่าว ขณะมาตรวจค้นไปแชร์ในเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่า สื่อมวลชนได้ก้าวข้ามจากความเสื่อม สู่ความเลื่อมใสศรัทธานั้น มองว่า เป็นวิธีคิดของวัดอยู่แล้ว คล้าย ๆ กับการพยายามนำหมอดูต่างชาติ มาบอกว่า พระธัมมชโย เป็นผู้วิเศษ ลงมากอบกู้พระพุทธศาสนา ซึ่งผิดหลักศาสนา และไม่รู้ว่าทางวัดคิดจะทำอะไร

ทั้งนี้ พระพุทธะอิสระ ยังกล่าวด้วยว่า คดีของพระธัมมชโย เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเรื่องถึงอัยการ ถึงขั้นตอนการส่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว จึงไม่เห็นด้วยที่จะมีการเจรจา เพื่อหาทางออก เพราะเลยเวลามาแล้ว การพยายามเจรจาเหมือนกลับไปเริ่มต้นใหม่ จึงไม่ถูกต้องตามกฎหมาย