นายกฯยันให้ความสำคัญSMEเพื่อกระตุ้นศก.

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ให้ความสำคัญ SME เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะต้องหาพันธมิตรป้อนงานเข้าสู่อุตสาหกรรม ห่วงละเมิดลิขสิทธิ์-ใช้กม.พิเศษเร่งรัดงาน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่องการขับเคลื่อน SMEs ด้วยกฎหมายฟื้นฟูกิจการตอนหนึ่ง ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะอยู่ในการส่งออกของประเทศกว่าร้อยละ 90 จำนวนกว่า 2.9 ล้านราย รวมถึงธุรกิจสตาร์ทอัพด้วย เนื่องจากเป็นความก้าวหน้ารองรับเศรษฐกิจ 4.0 เพราะประเทศจะต้องเดินหน้าในด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ตามศักยภาพที่มีอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เลิกกิจการเกษตรกรรมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ SMEs มีความสำคัญ จึงกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นไทยต้องหาพันธมิตรร่วมกัน รวมถึงทำให้ SMEs เป็นห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นเสาหลักในการป้อนงานเข้าสู่อุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลทำงานมา 2 ปี ทุกงานต้องแข่งขันกับเวลา จึงมีการใช้มาตรา 44 เพื่อขับเคลื่อนงาน

อย่างไรก็ตาม จึงต้องมีการกำหนดแผนที่ชัดเจน เพื่อไม่ต้องกลับไปสู่ความขัดแย้ง และไม่อยากให้ประชาชนให้ความสำคัญเรื่องความขัดแย้งมากเกินไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นห่วงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ เพราะการลอกเลียนแบบในไทยถือว่าติดอันโลก พร้อมไม่เห็นด้วยกับอภิปรายของ นายสมพงษ์ สระกวี สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ  (สปท.) ที่ระบุว่า ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งใครจะเลียนแบบก็เลียนแบบไป เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากเลียนแบบหรือลิขสิทธิ์ อาจจะเกิดผลกระทบให้เกิดการกีดกันทางการค้า ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ประเทศอื่น ๆ เพราะไทยได้ร่วมในองค์กรการค้าต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งทำให้ผิดกฎหมายทั้งไทยและต่างประเทศด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลต้องใช้กฎหมายพิเศษเพื่อเร่งรัดการทำงานที่เรียกว่า การปฏิรูปประเทศ หวังว่าครั้งนี้จะเป็นการปฏิวัติครั้งสุดท้าย ซึ่งทุกคนรู้ปัญหาของประเทศ แต่กลับไม่รู้วิธีการแก้และที่ผ่านมาไม่เคยมีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และยืนยันว่า จะไม่ยอมให้มีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นแม้แต่ 1 บาท ก็ตาม