เมเจอร์เร่งขยายสาขาเสริมแกร่ง ยกเครื่องโรงหนังเก่าดึงคนดู

นายอนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง 5 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแผนการดำเนินธุรกิจนับจากนี้บริษัทจะเน้นการแข่งขันกับตัวเอง ไม่แข่งขันกับใคร ขณะเดียวกันทุกโรงหนังที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น เมเจอร์, อีจีวี, เอสพลานาด หรือพารากอนซีนีเพล็กซ์ เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจโรงภาพยนตร์อยู่ที่ 75% จึงทำให้นโยบายการตลาดนับจากนี้จะเน้นการเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เข้ามาดูหนังเพิ่มขึ้นเท่านั้น

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะปรับปรุงสาขาเก่าอีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขา เพื่อให้มีความทันสมัยและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมกันนี้ยังจะมีการเพิ่มจุดบริการตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติภายใต้ชื่อ เอ็ม บ๊อคซ๏ฟฝ เพิ่มขึ้นให้ครบ 20 สาขา ภายใต้งบฯ ลงทุน 100 ล้านบาท จากปัจจุบันมีจำนวนตู้ให้บริการเพียง 2 สาขา คือ พารากอน และเอสพลานาด ซึ่งในส่วนของการบริการดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งบัตรเงินสดเอ็ม แคช ของเครือเมเจอร์ และเงินสด โดยภายหลังจากที่บริษัทมีการขยายจุดบริการดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ฐานสมาชิกบัตรเอ็ม แคช สิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 7 แสนใบ จากปัจจุบันมีฐานสมาชิกอยู่ที่ 4 แสนใบ

สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ในปีนี้มองว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี่พอตเตอร์ นเรศวร หรือองค์บาก 3 ซึ่งหากนับรวมภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในปีนี้ทั้งหมด คาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 200 เรื่อง โดยในส่วนของบริษัทเองก็จะมีการทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับพันธมิตรทั้งในเครือและนอกเครืออย่างต่อเนื่องเช่นกัน เพื่อกระตุ้นการเข้ามาชมภาพยนตร์ของผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าสิ้นปีจะสามารถผลักดันให้มีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15%