ชาวนาโคราชหันปลูกผักชีลาวแทนข้าวนาปี

ชาวนาโคราชหันปลูกผักชีลาวแทนข้าวนาปี

ชาวนาโคราชหันปลูกผักชีลาวแทนข้าวนาปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชาวนาโคราช หันปลูกผักชีลาวแทนข้าวนาปี หลังลำตะคอง เตือนจะส่งน้ำช่วยนาปี น้ำกักเก็บต้องเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร

หลังจากในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา มีเริ่มมีปริมาณฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรต่างเริ่มมีการทำการเพาะปลูกข้าวนาปีทำการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ อย่างเช่น เกษตรกรพื้นที่บ้านตะคลองเก่า ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก็ต่างพากันนำเมล็ดพันธุ์พืชผักชนิดต่าง ๆ ทำการหว่านพื้นที่เพาะปลูกที่ ได้มีการเตรียมเพื่อหารายได้เสริมช่วงที่ยังไม่ได้เพาะปลูกข้าวนาปี หลังจากที่เขื่อนลำตะคอง ได้แจ้งเตือนเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง ว่า ทางเขื่อนลำตะคอง จะสามารถจัดส่งน้ำเหลือการเพาะปลูกข้าวนาปี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2559 แต่ต้องมีปริมาณน้ำกักเก็บเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายสุรเดช สังฆะรัตน อายุ 48 ปี หนึ่งในเกษตรกรที่ได้ทำการปลูกผักสวนครัว เปิดเผยว่า เดิมทีพื้นที่ดังกล่าว ตนจะทำการเพาะปลูกข้าวนาปีแต่ในปีนี้ทางเขื่อนลำตะคอง แจ้งเตือนเกษตรกรถึงการจ่ายน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจล่าช้า ดังนั้นทำให้ต้องหันมาปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อหารายได้ในช่วงที่ยังไม่ได้มีการเพาะปลูกข้าว อีกทั้งระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิต ใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือน ส่วนสาเหตุที่ตนเองต้องเลือกปลูกผักชีลาว เนื่องจากช่วงนี้ในพื้นที่มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เมล็ดพันธุ์ผักชีที่หว่านไปนั้น เจริญเติบโตได้ดี และการดูแลก็ไม่ยุ่งยาก อีกทั้งราคาที่พ่อค้าคนกลางมารับซื้อ ให้ราคากิโลกรัมละ 10 บาท

สำหรับปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำตะคอง ล่าสุดมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 20% ของความจุกักเก็บ 314.49 ล้านลูกบาศก์เมตร


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook