พงศพัศแถลงจับผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า9แสนเม็ด

พงศพัศแถลงจับผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า9แสนเม็ด

พงศพัศแถลงจับผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า9แสนเม็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ยึดของกลางยาบ้า 9.9 แสนเม็ด - จับขบวนการลักลอบค้าเสพติด 3 จว.ใต้ พร้อมแถลงรวบกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่พัทลุง

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายจำนวน 1 ราย คือนายบัญชา พ่วงฉิม หรือเอก อายุ 38 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวนรวม 995,800 เม็ด รถยนต์จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และของกลางอื่นๆรวมอีก 9 รายการ โดยสามารถจับกุมได้ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. ถนนข้าวหลาม อ.เมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่านายบัญชา เป็นผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับในคดีอื่น และยังมีพฤติการณ์ ลักลอบลำเลียง และจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จ.ชลบุรี จึงได้ติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่องจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนในรถยนต์ที่ผู้ต้องหาขับมา จึงจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมีนาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย นายสุชาติ กล้ากสิกิจ อายุ 44 ปี นายอับดุลอาชิ หวันโส๊ะ อายุ 28 ปี นายอัดนันต์ ปิรู อายุ 27 ปี นายฮำดี บาโงสะตา อายุ 25 ปี นายนุตฟี มะแซจะแหน อายุ 27 ปี และ นายมะซัมรี กาเสน อายุ 22 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 321,800 เม็ด ยาไอซ์ ประมาณ 2 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บม 8105 กำแพงเพชร และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหารายที่ 1 ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก จ.ลำปาง ผู้ต้องหารายที่ 2 และ 3 สามารถจับกุมได้ที่ห้างโลตัส สาขาบางบัวทอง จ.นนทบุรี และผู้ต้องหารายที่ 4, 5 และ 6 สามารถจับกุมได้ที่ห้องพักไม่มีชื่อย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มลักลอบลำเลียงยาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่ 3 จังหวีดชายแดนใต้ จึงติดตามและเข้าจับกุม และขยายผลผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะดำเนินการติดตามขยายผลการจับกุมบุคคลในเครือข่ายต่อไป


รวบกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่พัทลุง 

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยพล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 แถลงการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบค้ายาเสพติดจำนวน  6 ราย ประกอบด้วย นายเสรี หรือ เส อิสลาม อายุ 40 ปี นายวัชรพล หรือ อี จงรักษ์ อายุ 29 ปี นายเจนวิทย์ หรือ เบ้ เพชรรัตน์ อายุ 29 ปี นายสมคิด หรือเขียว รักเล่ง อายุ 54 ปี นายรุตชิโรจน์ เหล็มปาน อายุ 27 ปี และ นายกิตติระ วรรณเจริญ อายุ 32 ปี พร้อมยาบ้า จำนวนกว่า 200,000 เม็ด รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า จำนวน 1 คัน อาวุธปืนขนาด .38ยี่ห้อเทารัส จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 14 นัด และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ใน จ.พัทลุง และจะมีการนัดส่งยากัน จึงติดตามดูพฤติกรรมต่อเนื่องหลังพบพิรุธจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น กระทั่งพบของกลางทั้งหมด พร้อมนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมก่อนทราบข้อมูลว่า นางเจ๊ และ นางกิ๊ก (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ให้เดินทางมารับยาเสพติดภายในสถานที่ดังกล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย นายรุตชิโรจน์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมทั้งขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook