ย้อนรอยฆาตกรรมโหดครูสาว คนร้ายย่ามใจก่อเหตุซ้ำ

ย้อนรอยฆาตกรรมโหดครูสาว คนร้ายย่ามใจก่อเหตุซ้ำ

ย้อนรอยฆาตกรรมโหดครูสาว คนร้ายย่ามใจก่อเหตุซ้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนรอยฆาตกรรมข่มขืนปาดคอครูสาวอัตราจ้าง สระบุรี คนร้ายย่ามใจก่อเหตุซ้ำหลังพ้นโทษคดีข่มขืนไม่นาน 

ข่าวคดีข่มขืนในสังคมไทยยังคงปรากฎในสังคมไทย บ่อยครั้งได้อ่านประเภทนี้รู้สึกสลดหดหู่ไปหมด เชื่อว่าสังคมยังคงตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าคดีฆ่าข่มขืน คนร้ายจะถูกลงโทษอย่างไรให้ "ประหาร" หรือไม่?  ความยำเกรงของกฎหมายหาก "ฆ่าข่มขืน" ประหาร จะหยุดยั้งความชั่วได้หรือเปล่า

ย้อนรอยคดีสะเทือนขวัญฆ่าข่มขืนปาดคอครูสาวอัตราจ้างในจังหวัดสระบุรี เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุพบศพคนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องเช่า ภายในซอยสุดบรรทัด เทศบาลเมืองแก่งคอย จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุคือตัวที่พักซึ่งแบ่งเป็นห้องให้เช่ามีทั้งหมด 10 ห้อง และห้องเช่าหมายเลข 17/5 คือจุดที่พบศพหญิงสาวถูกฆ่าปาดคอ 

เมือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบบริเวณห้องพักพบคราบเลือดติดอยู่ที่ลูกบิดประตูห้อง สภาพศพเป็นหญิงสาวอยู่ในสภาพเปลือย มีบาดแผลถูกของมีคมบาดเข้าที่ลำคอเป็นแผลเหวอะหวะ ในห้องเต็มไปด้วยรอยเลือดกระจายไปทั่ว นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของกระจัดกระจาย 

จากการสอบปากคำคนในพื้นทีให้ข้อมูลว่า หญิงสาวคนที่ถูกฆาตกรรม มีอาชีพเป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แก่งคอย วัย 27 ปี ได้มาเช่าห้องพักได้ระยะหนึ่งแล้ว

ย้อนช่วงเวลาก่อนพบศพครูสาว นายตำรวจหนุ่มซึ่งเป็นแฟนของคุณครูอัตราจ้าง ได้โทรศัพท์ติดต่อกันปกติดั่งเช่นทุกครั้ง แต่วันเกิดเหตุกลับไม่ได้รับการติดต่อจากแฟนสาว จึงได้โทรศัพท์ถึงคนข้างห้องให้ช่วยไปตามยังห้องพัก  

ซึ่งผู้เช่าห้องติดกันได้พยายามเรียกอยู่หลายรอบ ก่อนจะเริ่มสังเกตว่าห้องเกิดเหตุไม่ได้ล็อกจึงได้เข้าไปดูกลับต้องพบกับภาพที่สร้างความสะเทือนใจมาก ครูสาวถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด  

นอกจากนี้ผู้เช่าห้องยังให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงกลางดึกก่อนจะพบศพ ได้ยินเสียงคนกรีดร้องดังราวๆ 2-3 นาที ก่อนจะเงียบไป กระทั่งมาพบว่ามีคนถูกฆาตกรรมเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่า

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะประสงค์เข้ามาข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากเหยื่อเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่ปรากฏว่าเกิดขัดขืนต่อสู้กัน จนพลั้งมือฆ่าปาดคอ ก่อนจะชิงทรัพย์หลบหนีไป เนื่องจากสร้อยคอทองคำ 50 สตางค์ได้หายไปพร้อมๆ กับโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต 

และในวันเดียวกัน (2 ก.ค.) ช่วงเวลา 2 ทุ่มเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย ได้เรียกตัวชายหนุ่มข้างห้องชื่อ ชาตรี เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งมาสอบปากคำและตรวจร่างกายพบว่ามีร่องรอยการข่วนที่ผิวหนัง มีบาดแผลมีดบาด เค้นสอบอย่างหนักจน นายชาตรี รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าปาดคอครูสาว

คำรับสารภาพของ นายชาตรี ให้การอย่างไม่สะทกสะท้านว่าแอบชอบครูสาวมานาน ก่อนหน้าจะลงมือก่อเหตุได้ย่องเข้าไปดูห้องผู้ตายพบว่าลูกบิดประตูไม้ด้านหน้าชำรุด เลยวางแผนฉวยจังหวะผู้ตายนอนหลับ ลอบเจาะมุ้งลวดประตูเหล็กดัดล้วงมือเข้าไปปลดกลอน ใช้มีดในห้องจี้คอ แต่ผู้ตายตื่นขึ้นมาต่อสู้ขัดขืน จึงใช้มือกดคมมีดตัดคอผู้ตายเสียชีวิต โดยลงมือเพียงคนเดียวไม่มีใครร่วมก่อเหตุด้วย

เมื่อค้นประวัติของ ฆาตกรรายนี้พบเคยก่อคดีข่มขืนมาแล้วและเพิ่งจะพ้นโทษออกมายังไม่ถึงปีด้วย ถือเป็นการกระทำที่ย่ามใจ ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย

ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญคนในสังคม หากพลิกแฟ้มคดีฆ่าข่มขืนมีปรากฎให้เห็นบ่อยครั้ง และเชื่อว่าสังคมยังคงตั้งคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าคดีฆ่าข่มขืน คนร้ายมีลงโทษสถานเดียวคือให้ "ประหาร" เท่านั้น พอจะหยุดยั้งความชั่วในจิตใจได้หรือไม่ คงต้องลองพิจารณากฎหมายใหม่กันสักที 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook