โซเชียลฮือฮา! พ่อค้าหัวใจหล่อ ให้คนพิการ-เร่ร่อน กินสเต็กฟรีไม่อั้น

โซเชียลฮือฮา! พ่อค้าหัวใจหล่อ ให้คนพิการ-เร่ร่อน กินสเต็กฟรีไม่อั้น

โซเชียลฮือฮา! พ่อค้าหัวใจหล่อ ให้คนพิการ-เร่ร่อน กินสเต็กฟรีไม่อั้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(6 ก.ค.) เว็บไซต์เชียงใหม่นิวส์ รายงานว่า ที่ร้านสเต็กแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีการติดป้ายหน้าร้านเป็นข้อความขนาดใหญ่ว่า "คนพิการทานฟรีครับ" โดยโลกโซเชียลฯ ต่างพากันแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวไปทั่วโลกออนไลน์

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านสเต็กอินดี้ บายเพาะช่าง เลขที่ 509/2 ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าของร้านคือนายสุรชัย เกียวกันทึก หรือ พี่โอ อายุ 36 ปี เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกว่าคนพิการด้อยโอกาสในสังคมสูงมากไปทุกที่จะโดนกีดกันทุกอย่าง คุณค่าความเป็นมนุษย์ไม่เท่าเทียมกัน คนที่มีอวัยวะครบ 32 กับคนพิการแตกต่างกันมาก เลยดูด้อยไปกว่า

ความจริงแล้วก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ทำไมคนพิการถึงเป็นคนอีกประเภทหนึ่งในสายตาของคนปกติ ในฐานะที่ตนเองเรียนศิลปะมาด้วย ก็คิดว่าทำไมถึงไม่เท่าเทียมกัน เพราะคนพิการส่วนใหญ่ด้อยโอกาสที่จะมากินตามร้าน ตนเลยหยิบยื่นโอกาสตรงนี้ให้

นอกจากจะเปิดให้คนพิการได้ทานฟรีแล้ว ยังให้คนเร่ร่อนทุกคนทานฟรีด้วย คนเร่ร่อนบางคนที่ไปเจอไม่มีแม้กระทั่งบ้านไม่มีที่นอน แม้ของกินที่กินได้แม้กระทั่งขยะ จึงมีความคิดว่าซักวันตนมีร้านจะให้คนพวกนี้ได้กินและได้กินของดีด้วย เพราะว่าตนไม่ชอบคนที่กินทิ้งกินขว้าง คนที่กินแล้วและเห็นประโยชน์ของอาหาร คนยากไร้ขอได้ข้าวซักจานก็มีความสุขแล้ว แต่คนมีเงินกินทิ้งกินขว้าง

"ผมซึ่งไม่ค่อยชอบตรงจุดนี้เลย พอมีร้านก็หยิบยื่นให้เค้า มันไม่ทำให้เราจน เราอยู่ได้เค้าอยู่ได้ ในสังคมมีชีวิตต่อไปในสังคม แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ความสุขไม่จำเป็นที่ต้องไขว่คว้าหาเงินเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน เราพอเพียงแค่นี้พอ" เจ้าของร้านสเต็ก กล่าว

นายสุรชัย เปิดเผยต่อไปว่า วันที่ผ่านมามีคนเร่ร่อนเดินมาจาก อ.สารภี เค้ายกมือไหว้ตนและบอกไม่มีข้าวกินตั้งแต่เช้าขอทานหน่อย ตนจึงบอกเชิญเลยครับอยากกินอะไรสั่ง คือจัดให้ไม่ด้อยกว่าคนปกติ

คนปกติทานแบบไหนพวกเค้าได้กินเหมือนกัน ไม่มีว่าต้องลดปริมาณอะไร ทุกอย่างให้ที่ทานเหมือนของขายหมด ให้กินจนหมดกินเต็มที่ไม่อิ่มไม่ให้ออกร้าน สำหรับร้านตนคนเร่ร่อนคนพิการพาพวกมากินกันได้เต็มที่เลยสำหรับร้านตน

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก chiangmainews

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook