เพชรบุรีจับกุมรีสอร์ทรุกป่าสงวนแห่งชาติ

เจ้าหน้าที่ สนธิกำลังบุกเข้าตรวจสอบและจับกุมรีสอร์ทรุกป่าสงวนแห่งชาติ รับชาวต่างชาติเข้าแคมป์

เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 17 กรมป่าไม้สนธิกำลังร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ปทส. และทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ บุกเข้าตรวจสอบและจับกุม รีสอร์ทฮิวซา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่ายางน้ำกลัดเหนือ และป่ายางน้ำกลัดใต้ ขณะที่เจ้าของผู้ครอบครองอ้างว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวใช้เป็นที่ตั้งมูลนิธิวิทยาศาสตร์ทางจิตเพื่อการพัฒนาและรับกลุ่มชาวต่างประเทศมาเข้าค่ายปฏิบัติทางจิตเพื่อสุขภาพ ต่อมาขยายทำเป็นรีสอร์ทในภายหลัง ยอมรับพื้นที่เกินครึ่งที่ซื้อมาไม่มีเอกสารสิทธิ์อ้างเป็นพื้นที่ครอบครองอยู่เดิม ส่วนการเปิดเป็นรีสอร์ทยังอยู่ในขั้นตอนการขออนุญาต ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา จำนวน 4 ข้อหา คือ 1.ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 32 ตรี 2.ฐานในเขตป่าสงวนแห่งชาติห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ 3.ฐานผู้ใดกระทำการหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น 4.ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งขาติ พ.ศ.2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2509 (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 มาตรา 26/5 ในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องในคดีอาญาให้เรียกค่าเสียหายตามมาตรา 26/4 ไปในคราวเดียวกัน สำหรับค่าเสียหายของรัฐทางเจ้าหน้าที่ จะประสานผู้ชำนาญการมาทำการประเมินมูลค่าความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมบางประการหลังการทำลายป่าไม้ต่อไป