แอนนี่ บรู๊ค ซิงเกิ้ลมัมเคยตกอับ ถูกมองแรงว่าขายตัว

แอนนี่ บรู๊ค ซิงเกิ้ลมัมเคยตกอับ ถูกมองแรงว่าขายตัว

แอนนี่ บรู๊ค ซิงเกิ้ลมัมเคยตกอับ ถูกมองแรงว่าขายตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นอีกหนึ่งซิงเกิ้ลมัมที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "น้องฑีฆายุ" อยู่ดีกินดีได้เรียนที่ดีๆ แบบไม่ต้องอายใคร แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้น อดีตนักแสดงสาว "แอนนี่ บรู๊ค" ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังว่า เคยตกอับถึงขนาดไม่มีงาน ต้องบินไปร้องเพลงต่างประเทศโดยไม่มีเวลาได้พัก จนแอบร้องไห้อยู่บ่อยๆ แต่พอคิดได้ว่าต้องสู้อีกครั้งเพื่อลูกก็สามารถฮึดมาได้จนถึงทุกวันนี้ พร้อมเมินคนมองว่าแอบไปขายตัว ย้ำทำอาชีพบริสุทธิ์ไม่ได้ไปขอใครกิน

การเป็นซิงเกิ้ลมัมที่ผ่านมายากไหม ?
"ยากนะ เอาง่ายๆ เลยค่าใช้จ่ายทางบ้านเราต้องหาเอง ที่สำคัญคือเวลาที่เราท้อไม่มีคนมาช่วยเรา เราต้องอยู่ตัวคนเดียว"

น้องมีวี่แววจะเข้าวงการไหม ?
"ไม่รู้อ่ะ ตอนนี้ยังซนอยู่ แต่ดูเขาก็สนใจนะคะ เคยพาไปแคสโฆษณาเขาก็ชอบ เวลาเรามาทำงานเราก็บอกได้เงินนะ เขาจะถามจริงเหรอ อีกหน่อยเขาจะไปซื้อรถแลมโบกินี่ เขาเรียนหนังสือเก่งนะ ยิ่งในเรื่องของภาษาจะให้เขาเรียนรู้มากขึ้น เผื่อได้ไปต่างประเทศ แต่ก็มีคนมาติดต่องานน้องผ่านทางอินสตาแกรมบ้างนะคะ ซึ่งเรายังไม่ได้เข้าไปดูเลย บางคนมาต่อค่าตัวมากเกินไป แต่ลูกเราไม่ใช่ดารา ค่าตัวก็หลักพันแล้วไม่ใช่หลักหมื่น เขาบอกไม่ไหวเราก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แค่ปล่อยผ่านไป รอลูกโตทีเดียวก็ได้"

เห็นว่าช่วงนี้ไปเมืองนอกบ่อย ?
"จริงๆ ไปเมืองนอกไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรานะ เหมือนเป็นแรงงานต่างด้าวมากๆ เลย คือไปร้องเพลงและคอยเก็บทริป ชีวิตค่อนข้างลำบาก ไม่ได้สบาย อยู่ก็แออัด ห้องนึงมีตั้งยี่สิบคน อัดๆ กันอยู่ ชีวิตเราไม่ได้หรูหรา ค่อยข้างเหนื่อยด้วยซ้ำ ทำงานตั้งแต่สามทุ่มถึงหกโมงเช้า"

เคยท้อบ้างหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้เรามีชีวิตที่ค่อนข้างดี มีงานในวงการบันเทิงของไทย ?
"ตอนแรกรับไม่ได้ ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ ทำไมชีวิตเราตกต่ำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ต้องมานั่งนับศูนย์ใหม่เหรอ แต่เราก็มาคิดว่าเราก็เป็นเด็กบ้านนอกอยู่ลำปาง เติบโตมาจากดิน ทำไมจะกลับไปสู่ดินเพื่อเติบโตอีกไม่ได้ เราก็เริ่มจากศูนย์หรือนับหนึ่งใหม่ได้ จนถึงวันนี้ก็หลายปีแล้วนะที่ทำงานและส่งลูกมา"

ผลตอบแทนคุ้มกับการที่เราไปทำงานต่างถิ่นหรือเปล่า ?
"มันก็ยังดีกว่าที่เราอยู่เฉยๆ ที่นี่ อยู่ที่นี่เราไม่มีงานทำค่ะ อีกอย่างดาราเยอะด้วย ค่าตัวที่ได้ก็เกือบจะฟรีอยู่แล้ว บางคนต่อแล้วต่ออีก แต่แอนไม่ได้ว่าอะไรนะ แอนก็เต็มที่ของแอนแล้ว บางทีหลักพันแอนก็ไปแล้ว ไม่เลือกงานไม่ยากจนค่ะ แต่มันก็ยังไม่โอเค เลยไปทางนู้นเลยแล้วกัน อย่างน้อยค่าเงินเขาก็สูงกว่าค่าเงินเรา อาจจะทำงานหลายชั่วโมง หรืออาจจะเป็นงานที่ทุกคนไม่ชอบ หรืออาจจะดูถูกที่ไปร้องเพลง ไปให้เขาจับหรือเปล่า ไม่ใช่แบบนั้นนะ เราไปร้องเพลงเก็บทริปธรรมดา เสร็จก็กลับบ้านนอนสบายใจ"

กลัวคนจะมองว่าเราไปขายตัวไหม ?
"ไม่กลัว เพราะเขาไม่ได้ให้เรากิน คนที่ส่งลูกเรียนก็คือตัวเรา เพราะฉะนั้นคนที่มาพูดหรือคอมเม้นท์ด่าแอน แอนไม่สนใจ จะคิดว่าเป็นสัมภเวสี ให้มันผ่านไป ไม่ได้สนใจและก็ไม่ได้มองด้วย สุดท้ายแล้วลูกเราได้เรียนหนังสือ ได้กินข้าว และโตมาขนาดนี้ด้วยเงินของเรา มันจะมาจากไหนก็แล้วแต่ แต่มันมาจากการที่เราทำมาหากินด้วยความบริสุทธิ์"

เวลาเราบินไปทำงาน ใครเป็นคนเลี้ยงลูกให้ ?
"ลุงกับป้าค่ะ เขาเลี้ยงน้องฑีมาดีมากเลย"

การรับงานจากที่ไทยกับที่ต่างประเทศต่างกันตรงไหน ?
"แอนต้องเซ็นสัญญาทุกๆ สามเดือนค่ะ เพราะเคยไปแบบยี่สิบห้าวันแล้วเหมือนต่างด้าว เราต้องวิ่งหนีตำรวจ (หัวเราะ) แต่ถ้าอยากไปถูกกฎหมายเราต้องไปสามเดือนขึ้นไป ก็ต้องห่างลูกหน่อย แต่ก็เก็บเงินได้เป็นก้อน เพราะอยู่ที่นู้นค่าเงินมันสูง เราต้องประหยัด"

เรียกว่าเราออกจากวงการบันเทิงไทยไปเลยไหม ?
"ถือว่าน่าจะออกไปเลยนะคะ จากตอนนั้นก็หลายปีแล้วนะ นี่ก็เริ่มๆ กลับเข้ามามีงาน เริ่มมีไปนู้นมานี่บ้าง งานละครก็เริ่มมีติดต่อมา เขาบอกให้เล่นบทแม่นะ เราบอกแม่ก็ได้ ได้หมด"

หัวใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
"ไม่มีใครเลย ตอนนี้อยากมีมาก (หัวเราะ) ลูกไล่ให้ไปแต่งงานแล้วอ่ะ ลูกบอกเมื่อไหร่แม่จะแต่งงานสักที อยากมีน้อง แต่แอนคงไม่มีแล้วค่ะ คนเดียวก็เลี้ยงไม่ไหวแล้ว เคยมีคนนึงที่คุยแต่เหมือนเขาไม่ได้รักลูกเราจริงๆ แค่ซื้อของเล่นมาให้ไม่ได้แปลว่าจะรักลูกเรานะ ต้องรักลูกเราด้วย"

เครดิตภาพ IG: annie_teekayu

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ แอนนี่ บรู๊ค ซิงเกิ้ลมัมเคยตกอับ ถูกมองแรงว่าขายตัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook