แพร่จัดพิธีพวงมาลาสดุดีพระยาไชยบูรณ์

ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ประธานจัดพิธีพวงมาลาสดุดีวีรกรรมพระยาไชยบูรณ์ ครบ 114 ปี ของการจากไป

ที่จังหวัดแพร่ ในวันที่ 25 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกสดุดีวีรกรรมพระยาไชยบูรณ์ ซึ่งครบ 114 ปี ของการจากไปโดยนายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธาน ร่วมด้วย นางชูสม รัตนนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พันเอก ชาตรี สงวนธรรม ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์เด่นชัย พันเอก ชินทัศน์ หมวกละมัย รอง รมน.จว.แพร่ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ พร้อมคณะข้าราชการ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา กลุ่มพลังมวลชน ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลแก่พระยาไชยบูรณ์ และวางพวงมาลาสดุดีวีรกรรมพระยาไชยบูรณ์ สดุดีวีรกรรมพระยาไชยบูรณ์ ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาไชยบูรณ์ ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ พร้อมกันนี้ได้อ่านคำสดุดีวีรกรรมพระยาไชยบูรณ์ เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของอดีตข้าหลวงเมืองแพร่

สำหรับประวัติพระยาไชยบูรณ์โดยย่อนั้น พระยาไชยบูรณ์ เดิมมีชื่อว่า ทองอยู่ สุวรรณบาตร เป็นบุตรของ พระยาศรีเทศาบาล และ คุณหญิงกมลจิตร เป็นชาวเมืองพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เริ่มรับราชการเมื่ออายุ 21 ปี ในตำแหน่งเสมียนอำเภอพิชัย ต่อมาได้เลื่อนเป็นปลัดอำเภอ นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และได้เลื่อนเป็นปลัดมณฑลพิษณุโลก ในปี พ.ศ. 2440 ย้ายไปเป็นข้าหลวงจังหวัดแพร่ และได้เลื่อนยศเป็นพระยาไชยบูรณ์ในปี 2443 และในวันที่ 25 กรกฎาคม 2445 เกิดเงี้ยวปล้นเมืองแพร่ โดยเข้าปล้นโรงพัก ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข ทำลายคลังหลวงและกวาดเงินสดไปทั้งหมด 37 อัฐ บุกเรือนจำ เพื่อปล่อยนักโทษ และในวันที่ 27 กรกฎาคม 2445 เป็นวันที่พระยาไชยบูรณ์ต้องจบชีวิตลง ซึ่งต่อมาทางราชการ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดพระราชทานยศแก่พระยาไชยบูรณ์เป็น พระยาราชฤทธานนท์พหลภักดี ในที่สุด