นายกฯปัดผุดวอร์รูมประชามติยึดกม.คดีสมเด็จช่วง

นายกฯปัดผุดวอร์รูมประชามติยึดกม.คดีสมเด็จช่วง

นายกฯปัดผุดวอร์รูมประชามติยึดกม.คดีสมเด็จช่วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ปัดตั้งวอร์รูม รับประชามติ ชี้ฉีกรายชื่อโยงใครจับหมดขอให้ประชาชนมออกมาใช้สิทธิอย่างมีสติ ย้ำ คดีสมเด็จช่วง ยึดตามกระบวนการยุติธรรม ยัน ไม่เข้าข้างใครตั้งพระสังฆราช

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการติดตามสถานการณ์ออกเสียงประชามติในวันที่ 7 สิงหาคม ว่า ไม่จำเป็นต้องมีการตั้งวอรูมติดตามสถานการณ์ เพราะมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่แล้ว เช่น สภาความมั่นคงแห่งชาติ ส่วนการฉีกรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามตินั้น อยู่ในระหว่างดำเนินการสอบ ซึ่งต้องเจตนาของผู้กระทำ หากพบว่าเป็นการตั้งใจก่อความวุ่นวายและมีหลักฐานเชื่อมโยงจะจับกุมทั้งหมด

ทั้งนี้ สำหรับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้คาดหวัง แต่ขอให้ประชาชนมออกมาใช้สิทธิ์อย่างสติ รู้คิด ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของประชนต่อเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ และส่วนตัวจะไปใช้สิทธิ์ของเสียงประชามติอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมาโดยตลอด ซึ่งก็เคยเลือกรัฐบาลผิดมาหลายครั้ง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตั้งข้อหามีส่วนรู้เห็นในการครอบครองสินค้าที่ไม่เสียภาษีและข้อหาร่วมกันแจ้งความเท็จในเอกสารราชการกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ว่า ทุกอย่างต้องดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้โอกาสเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานและให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง ส่วนผู้ที่จะออกมาเคลื่อนไหวจากรณีดังกล่าวนั้น มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว เช่น ทั้งวินัยสงฆ์ และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ สำหรับการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่นั้น 

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด ส่วนตัวเคารพพระสงฆ์ทุกรูป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามความเหมาะสม และให้คดีความมีความชัดเจนก่อน เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อศรัทธาของประชาชน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกาจับกุม นายวีระพล สุขผล อดีตพระเณรคำ ว่า การส่งมอบผู้ต้องหาเป็นขั้นตอนของสหรัฐ ฯ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังประสานอยู่


นายกฯ ยัน ไม่ได้จับตาพิเศษวันเกิด "ทักษิณ"

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจภูธรภาค 5 ขอหมายจับนักการเมืองในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 5 คน ที่พบว่า มีหลักฐานเขื่อมโยงกับร่างรัฐธรรมนูญบิดเบือยว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่อยู่ในระหว่างการสอบสวน และส่วนตัวไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร แต่หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายทอดภาพสดให้ประชาชนได้ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด นายทิกษิณ ครบรอบ 67 ปี ในวันนี้ว่า ไม่ได้จับตาอะไรเป็นพิเศษ เพราะส่วนตัว ไม่สามารถห้ามได้ แม้แต่นักการเมืองที่จะเดินทางไปต่างประเทศ แต่ขอให้อย่าสร้างความเดือดร้อนหรือสร้างปัญหาให้ใคร  



นายกฯไม่ขัดข้องสนช.เดินหน้าสร้างสภาใหม่ใช้ไม้สัก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยืนยันที่จะใช้ไม้สักสร้างรัฐสภาแห่งใหม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สามรถทำได้ ซึ่งส่วนตัวได้อนุมัติแล้ว และมอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษารายละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะมีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน

ขณะที่ในส่วนของการจัดทำร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิตนั้น ขณะนี้ทางกระทรวงการคลัง กำลังดำเนินพิจารณา
ศึกษาก่อนจะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยยืนยันว่าการปรับปรุง พ.ร.บ.สรรพสามิต เพื่อให้สอดคล้องกับ
สถานการณ์ของสังคมโลกและภาระที่รัฐบาลต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไว้ ไม่ได้ต้องการขูดรีดภาษีจากประชาชนแต่
อย่างใด



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook