นายกฯขอทุกฝ่ายร่วมมือหยุดขัดแย้งปชต.

นายกฯขอทุกฝ่ายร่วมมือหยุดขัดแย้งปชต.

นายกฯขอทุกฝ่ายร่วมมือหยุดขัดแย้งปชต.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ขอทุกฝ่ายร่วมมือหยุดขัดแย้ง ปชต. ชี้การเมืองทำประชาชนสับสนประชามติ - ชูนวัตกรรมช่วยลดต้นทุนการผลิต เผย 2 ปีแก้ปัญหาหลายเรื่อง ต่างประเทศเชื่อมั่น ขณะ ICAO ชมพร้อมรับประเมิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครธรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี เป็น "วันภาษาไทยแห่งชาติ" ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใย และทรงพระราชทานแนวความคิดในการอนุรักษ์ภาษาไทย รวมทั้งทรงย้ำให้ประชาชนชาวไทยนั้น ได้ตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย  เนื่องจากเป็นมรดกของคนไทยทุกคน ควรภาคภูมิใจที่ใช้ภาษาไทย เป็นภาษาประจำชาติมากว่า 700 ปี เป็นภาษาหนึ่ง ที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยไว้ ดังที่ปรากฎบนหลัก "ศิลาจารึก" ต่อมา UNESCO ได้ยกย่องศิลาจารึก เป็น "มรดกความทรงจำของโลก" ที่อุดมด้วยคุณค่าทางวิชาการ หลายสาขา ทั้งในด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ภูมิศาสตร์

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอให้คนไทยนั้น ทั้งชาติ ร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญ และคุณค่าของภาษาไทย อันแสดงถึงความเป็นชาติ ใช้ให้ถูกต้อง ชัดเจน ตามหลักไวยากรณ์ ทั้งการพูด อ่าน เขียน ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เพื่อให้เกิดความงดงามทางภาษา  อันเป็นเอกลักษณ์และสมบัติทางวัฒนธรรม ที่โดดเด่นของชาติ ให้ดำรงอยู่ตลอดไป เหมือนที่เคยกล่าวหลายครั้งว่า สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งอยู่เสมอว่าขอให้คนไทยนั้นได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องภาษา วัฒนธรรม ประเพณี อันงดงาม อย่าทิ้งของเดิมนะ เดินไปข้างหน้าก็กลับมาดูของเดิมไว้ด้วยรักษาไว้ให้ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ได่ดำเนินการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านศูนย์ดำรงธรรม” โดยมีการปรับรูปแบบการให้การบริการ การเข้าถึงการสื่อสารกับประชาชน ให้สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งมีการร้องเรียน ร้องทุกข์ เกือบ 3 ล้านราย และได้แก้ปัญหาไปแล้ว มากกว่า 96%  ส่วน 4 %ที่เหลือเป็นเรื่องของความซับซ้อน ต้องขอเวลาในการแก้ไข  พร้อมกันนี้ ยังอยากให้ ศูนย์ดำรงธรรมเป็น “มากกว่า” ช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐ แต่อยากให้เป็นศูนย์รวมทุกอย่าง ในการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ  ตลอดจนเป็นเครื่องมือหนึ่ง ที่ช่วยในการบริหารราชการแผ่นดิน ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันดูแลความเรียบร้อยทั่วไปของบ้านเมือง ก่อนย้ำว่า ประเทศชาติ ต้องการคำว่า “จิตวิญญาณ จิตสำนึก จิตสาธารณะ อุดมการณ์” ของความเป็นคนไทยเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศ เพื่อให้พัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่อง “ยุทธศาสตร์ชาติ” เป็นความหวังหนึ่ง ที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน  และยืนยันไม่ได้คิดขึ้นเองแต่เป็นหลัก ทางวิชาการเอกสารวิจัย  เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ นำมาเป็นแนวทางที่จะทำให้รัฐบาล ผู้บริหารประเทศ  บริหารด้วยความโปร่งใสตามหลักการทั้งหมด 6 ข้อของธรรมาภิบาล โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ ผ่านความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน  และใช้แนวทางของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกัน ซึ่งแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ที่จะประกาศใช้ในเดือนตุลาคม 2559 นี้  ที่เราเรียกว่า “แผน 6-6-4” หมายความถึง “ยุทธศาสตร์6 ด้าน”ที่สอดคล้องกันกับยุทธศาสตร์แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12  ประกอบด้วย ด้านความมั่นคง,ด้านเศรษฐกิจ,ด้านสังคม ,ด้านทรัพยากรมนุษย์


นายกฯขอทุกฝ่ายร่วมมือหยุดขัดแย้งปชต.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครธรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวผ่านรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า อยากฝากความในใจประชาชนคนไทย ทุกภาคส่วน มองปัจจุบันและอนาคต โดยย้อนกลับไปที่อดีต ก่อน 22 พ.ค. 57 มาเป็นบทเรียน และช่วงปี 58-60 เป็นช่วง “การเปลี่ยนผ่าน” เตรียมการวางรากฐานสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศระยะยาวไปในอนาคต สิ่งต่างๆ ที่เป็นปัญหาในอดีต ทุกคนต้องช่วยกัน จะต้องไม่ย้อนกลับไปอีก ฝากนักการเมืองดีๆ ทุกพรรค ทุกคน ทุกกลุ่ม ช่วยคิดดังๆ อย่าพูดอย่างเดียว หลายอย่างยังทำไม่สำเร็จ ปัญหาต่างๆที่ต้องแก้ไข ต้องมาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ทั้งนักการเมือง ทั้งทหาร ทั้งรัฐบาล ทั้ง คสช. จะต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติดีขึ้น ไม่ใช่มาขัดแย้งกันด้วยประชาธิปไตย ลงประชามติ หรือเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนสับสน ไม่อยากให้ติติงอย่างเดียวกับสิ่งต่างๆที่ยังไม่สำเร็จ  ทั้งนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ของรัฐบาลและ คสช. ร่วมกับประชาชน ก็คาดหวังกับคำที่นักการเมืองพูดเสมอว่า “เราจะต้องเป็นประชาธิปไตย”  ยืนยันจะรักษาเสถียรภาพให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทุกคน ไม่อยากกล่าวโทษใคร อย่าทำให้สถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีก การปฏิวัติรัฐประหาร จะไม่เกิด ถ้าหากทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ประชาชนมีความสุข มีการบริหารที่โปร่งใส

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอฝากถึงประชาชน ทุกคนต้องต้อง “เปิดใจ” ยอมรับ การกำหนดเป้าหมายในชีวิตที่ต้องการ รู้ดีว่าประชาชนต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม  มีรายได้ที่สูงขึ้น มีอาชีพที่ดี เป็นหลักเป็นแหล่ง ยั่งยืน และต้องการความมีระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งทั้งหมดต้องพร้อม“ปรับตัว” ยอมรับสิ่งใหม่ๆ เพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิม โดยต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่าขัดแย้งอีกเลย ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


'ประยุทธ์' ชูนวัตกรรมช่วยลดต้นทุนการผลิต - 2ปีแก้ปัญหาต่างชาติเชื่อมั่น

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ตอนหนึ่งว่า การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากจะเป็นการเพิ่มผลผลิตด้วยนวัตกรรมหรือนำเทคโนโลยีมาช่วยในการผลิตแล้ว รัฐบาลก็ยังเน้นการลดต้นทุนในการผลิตด้วย เรื่องแรกคือการช่วยเหลือชาวนา ตามมาตรการลดค่าเช่านา ซึ่งตั้งแต่ มกราคม ถึง มิถุนายน 59 ได้ดำเนินการมา 2 มาตรการ คือ 1. การควบคุมค่าเช่านาไม่ให้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งผลดำเนินการทั้ง 4 ภาคของประเทศ สามารถลดต้นทุนการผลิต ในเรื่องค่าเช่านาให้กับเกษตรกรได้ มากกว่า 48 ล้านบาท และขอความร่วมมือในการลด งดค่าเช่านา ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ก็สามารถลด ค่าเช่านาได้เกือบ 600 ราย ในพื้นที่ 7 พันไร่ คิดเป็นเงิน 1 ล้านกว่าบาท และ งด เก็บค่าเช่านาได้ เกือบ 16 ราย ในพื้นที่ 266 ไร่ คิดเป็นเงิน 2 แสนกว่าบาท 

ส่วนเรื่องที่ 2 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คือการปรับลดขั้นตอนการส่งออกสินค้า ตั้งแต่ขั้นตอนที่เกี่ยวกับระเบียบและกฎหมาย รวมถึงลดการใช้เอกสารที่เป็นกระดาษ เพื่อนำระบบ IT เข้ามาใช้ และในปีหน้าจะขยายผลกับสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น น้ำตาล ยางพารา สินค้าแช่แข็ง เป็นต้น

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาหลายเรื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในเวทีโลก ซึ่งในห้วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีความก้าวหน้า มีความสำเร็จ และได้รับการยอมรับ อาทิ การแก้ปัญหางาช้างตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ที่เรียกว่า CITES  โดยรอดพ้นจากการถูกคว่ำบาตรทางการค้าจาก CITES ,เรื่องที่ 2 แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ด้วยการออก พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ฉบับที่ 2 โดยรัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติซึ่งได้ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด จนสหรัฐอเมริกา ได้ปรับระดับในรายงานการค้ามนุษย์ หรือ TIP Report ประจำปี 2559 ให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นซึ่งก็จะส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU ของทาง EU เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกัน สินค้าประมงไทย โดยประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออก กว่า 240,000 ล้านบาทต่อปี 

พร้อมกันนี้ ยังมีการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน หรือ ICAO ก็มีความก้าวหน้า ตามลำดับนะครับและขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมพร้อมที่จะรับการประเมินจาก ICAO ช่วงเดือน ธันวาคม 2559 ถึง มีนาคม 2560 ซึ่ง ICAO ชื่นชมเห็นในความพยายามของไทยและรัฐบาลไทยที่เอาจริงเอาจัง มีวิสัยทัศน์ที่ดีต่อการแก้ไขปัญหา เพื่อจะรองรับการเป็น “ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค” 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับบริษัทการบินไทยที่ได้รับรางวัลอันดับ 1 ประเภทสายการบินที่มีการปรับปรุงคุณภาพในเรื่องของการบริการเป็นดีขึ้นมากที่สุด แล้วก็เป็นอันดับ 1 ประเภทสายการบินที่ให้บริการสปาเลาจน์ยอดเยี่ยม ผลจากการสำรวจความพึงพอใจของนักเดินทางทั่วโลก ระหว่างเดือน สิงหาคม 2558 - พฤษภาคม 2559 โดยสกายแทรกซ์ นอกจากนั้นก็ยังเป็น 1 ใน 3 ของสายการบินที่ให้บริการอาหารสำหรับชั้นประหยัด ยอดเยี่ยมเป็นสายการบินที่มีพนักงานให้บริการยอดเยี่ยมของเอเชีย และเป็นสายการบินที่ให้บริการภาคพื้นดินในสนามบินยอดเยี่ยม

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการทำงานเพื่อปฏิรูปองค์กร ตามแผนปฏิรูปของบุคลากรทั้งหมดที่อยู่ในบริษัท โดยรู้ว่าทุกคนเหน็ดเหนื่อยในช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องช่วยกันต่อไป รวมถึงสหภาพที่ต้องเข้าใจ ร่วมมือกัน ถึงจะมีรายได้กลับเข้ามา และมีรายได้ได้ อย่าไปทำลายหม้อข้าวตัวเอง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook