เปิ้ล จูน ถูกเกรียนตอกย้ำ! ทำไมไม่กล้าพูด น้องออกู๊ด ตาเหล่

เปิ้ล จูน ถูกเกรียนตอกย้ำ! ทำไมไม่กล้าพูด น้องออกู๊ด ตาเหล่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ โรคเลซี่อาย หรือ โรคตาขี้เกียจ ของลูกชายคนเล็ก "น้องออกู๊ด" ไปเมื่อคราวก่อน ก็ดูเหมือนจะมีเกรียนคีย์บอร์ดที่หลายคนที่ไม่ค่อยเข้าใจ จนถึงขนาดเข้าไปคอมเม้นท์ให้คุณพ่อคุณแม่ลูกดกอย่าง "เปิ้ล นาคร" และ "จูน กษมา" ออกมาพูดความจริงว่าลูกชายคนเล็กของตัวเองตาเหล่ ?

ซึ่งล่าสุดขณะที่ เปิ้ล-จูน ควงสองแสบประจำบ้าน "ออก้า" และ "ออกัส" เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าว "ดาวน์นี่ ถูถูหาย...ลูบลูบหอม" ทั้งคู่ก็ได้ถือโอกาสชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคเลซี่อายและโรคตาเหล่ให้บรรดาเกรียนทั้งหลายเข้าใจตรงกัน โดยระบุว่าคุณหมอที่ดูแลอาการของลูกชายได้ยืนยันแล้วว่าทั้งสองโรคเป็นอาการคนละชนิด อีกทั้งตอนนี้กล้ามเนื้อตาด้านที่ไม่แข็งแรงของน้องออกู๊ดก็มีท่าทีดีขึ้น ซึ่งทั้งคู่คาดว่าไม่เกินเดือนพฤศจิกายนนี้ จะสามารถนำตัวลูกชายเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดได้อย่างแน่นอน...

อัพเดทอาการของน้องออกู๊ดเห็นว่าดีขึ้นแล้ว ?
จูน - "จากที่คุณหมอให้น้องปิดตามาเดือนกว่าๆ ผลก็คือเห็นได้ชัดว่าปฏิกิริยาตอบสนองของตาน้องดีขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่คุณหมอเขาก็ขอไว้ว่าอยากให้ติดเอาไว้แบบนี้อีกสัก 1 เดือน เพื่อให้องศาตาของน้องเป๊ะกว่านี้"

เปิ้ล - "คือ...คือมันก็มีหลายคนนะครับที่สงสัยและก็ส่งข้อความมาถามเราว่า ตกลงน้องเป็นเลซี่อายหรือว่าตาเหล่กันแน่ ทำไมไม่พูดว่าตาเหล่ไปเลยล่ะ ซึ่งผมต้องบอกเลยนะครับว่าคุณหมอเขาอธิบายอย่างชัดเจนแล้วว่าเลซี่อายกับตาเหล่มันคือคนละโรคกัน เลซี่อายคือกล้ามเนื้ออ่อนแอ แต่ตาเหล่ก็คือตาเหล่ มันคนละอย่างกันครับ และการรักษาก็คนละอย่างกันด้วย"

เปิ้ล - "อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ผมต้องบอกคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านให้ทราบเลยก็คือโรคนี้รักษาได้ ยิ่งถ้าเรารู้ตั้งแต่เด็กเราดูแลตั้งแต่เด็กและพาเขาไปหาหมอ ใช้เวลาผ่าตัดแค่ 45 นาที ก็หายได้ครับ"

สำหรับน้องออกู๊ดตอนนี้ก็คือต้องปิดไปก่อน ?
จูน - "ใช่ค่ะ คุณหมอขอไว้อีก 1 เดือน ซึ่งจูนคิดว่าเขาก็น่าจะผ่าช่วงๆ เดือนพฤศจิกายน เพราะคุณหมอเคยแนะนำว่าการรักษาตามมาตราฐานของเด็กคือไม่ควรเกิน 1 ขวบครึ่ง ซึ่งตอนนี้เขาจะครบ 1 ขวบแล้ว"

เปิ้ล - "คือถ้าเราปล่อยไว้จนโต หรือจนเขาอายุเกิน 10 ขวบ จะรักษาลำบากแล้วครับ อาจจะรักษายากเลยทีเดียว ยิ่งถ้าปล่อยไว้จนโตสายตาข้างที่ไม่แข็งแรงของเขามันก็จะยิ่งยาวไปเรื่อยๆ และสุดท้ายมันก็จะตาบอด"

ขอถามย้อนกลับไปพอมีคนมาบอกว่าลูกเราตาเหล่เรานอยด์ไหม ?
เปิ้ล - "ใช่ครับ มีคนมาพูดบอกว่าลูกมึงตาเหล่มึงก็พูดมาเลยดีกว่า ซึ่งเราก็ไม่ได้นอยด์นะ แถมยังสงสัยด้วยเขาตกลงแล้วเขาตาเหล่ใช่ไหม ก็ได้ถ้าอยากให้บอกว่าลูกตาเหล่ก็ได้ โอเค แล้วแต่เธอแล้วกัน แต่สุดท้ายเราก็ไปถามหมอนะ ถามว่าเขาตาเหล่หรือเปล่า ซึ่งคุณหมอเองก็ยืนยันชัดเจนเลยว่าทั้งสองโรคมันคนละอย่างกัน อันนี้คือคุณหมอพูดเองเลย"

แต่ก็มีคนในอินสตาแกรมให้กำลังใจครอบครัวเราเยอะ ?
จูน - "มีเยอะมากค่ะเพราะโรคนี้มีคนเป็นกันเยอะมาก บางคนก็ทักเข้ามาถาม เข้ามาหาวิธีตรวจสอบเบื้องต้น และเอาตรงๆ ตัวจูนเองก็ไม่ได้อายด้วยเพราะอย่างที่บอกโรคนี้มันรักษาได้ และเราเองก็ได้ให้คำแนะนำคนอื่นๆ ที่เขากำลังกังวลด้วย"

เปิ้ล - "ช่วงแรกๆ ที่เขารู้ว่าออกู๊ดป่วยเวลาเขาอุ้มเขาก็จะพูดตลอดว่า "สงสารลูก สงสารลูก" แต่เดี๋ยวนี้พอเริ่มสบายใจก็เรียกลูกโจรสลัดบ้างอะไรบ้าง ตามประสาเขาละ"

จูน - "คือเราก็ต้องปลอบใจะตัวเราเองด้วย เพราะการที่ลูกเราจะเป็นอะไรก็แล้วแต่นิดๆ หน่อยๆ อย่างแค่เขาเป็นหวัดเรายังเครียดเลย แต่นี่คือเขามีปัญหากับสายตา ซึ่งเราเองเป็นแม่เราก็พยายามทำความเข้าใจค่ะ"

ช่วงนี้ก็ให้น้องปิดตาอีกสัก 1 เดือน แล้วค่อยผ่าตัด ?
เปิ้ล - "ต้องดูอาการเดือนต่อเดือนครับ ถ้ากล้ามเนื้อตาเขาแข็งแรงขึ้นก็โอเค เพราะเท่าที่สังเกตช่วงนี้การใช้สายตาของเขาก็เริ่มดูชัดเจนมากขึ้นจะเหลือกจะมองมันก็ดูเป็นปกติ"

จูน - "เอาจริงๆ ถ้าเรารีบอยากผ่าเลยคุณหมอเขาก็ผ่าให้ได้ แต่คือเราไม่ได้รีบ เราอยากขอให้เป๊ะให้ชัวร์ก่อนดีกว่า เพราะอย่างที่บอกถ้าผ่าตัดแล้วก็จะหายเลย 100 เปอร์เซ็น"

เครดิตภาพประกอบจาก Instagram @ple_nakorn

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ เปิ้ล จูน ถูกเกรียนตอกย้ำ! ทำไมไม่กล้าพูด น้องออกู๊ด ตาเหล่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook