ทาทา ผอมแล้วแซ่บ! เลี้ยงลูกชายน้ำหนักลด 24 กิโลกรัม

"ทาทา" กลับมาแซ่บอีกครั้ง ผลจากการเลี้ยงลูกชาย "น้องเร" ทำน้ำหนักลดอลังการถึง 24 กิโลกรัม รับตอนนี้เป็นคุณแม่ติดลูกเพราะอยากทุ่มเวลาดูแลให้เต็มที่

ทำเอาอึ้งกันทั้งงานเมื่อคุณแม่ลูกอ่อน "อมิตา ทาทา ยัง" โผล่มาร่วมงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต "ล้านตลับ"ณ สตูดิโอจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในลุคใหม่สุดเซอร์ไพรส์ เพราะเจ้าตัวลดน้ำหนักได้ถึง 24 กิโลกรัม เนื่องจากต้องทุ่มพลังและเวลาในการเลี้ยงลูกชายตัวน้อย "น้องเร" วัย 7 เดือน แบบเต็มที่

เท่านั้นไม่พอ เมื่อสาวทาทาถูกถามถึงพัฒนาการความน่ารักขี้เล่นของน้องเร รวมถึงกระแสชื่นชมจากแฟนคลับเกี่ยวกับความหล่อตั้งแต่ยังละอ่อน ก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เป็นปลื้มแบบสุดๆ กันเลยทีเดียว...

ตอนนี้หลายคนแซวว่าเราเป็นคุณแม่ที่ติดลูกมาก ?
"ติดลูกมากค่ะ ติดลูกมาก (หัวเราะ) แต่วันนี้เขาก็มาให้กำลังใจนะแม้จะมาได้แค่แปปเดียว คืออย่างที่เห็นค่ะงานเสียงค่อนข้างดังและคนก็เยอะ เขายังเล็กอ่ะนะ ดิฉันห่วงลูกมาก (หัวเราะ)"

น้องอายุ 7 เดือนแล้ว ตอนนี้เริ่มเข้าที่เข้าทางหรือยัง ?
"รู้สึกโชคดีมากค่ะ เพราะน้องเรเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมาก นอนตรงเวลา แต่อาจจะมีช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมานิดหน่อยเหมือนเขารู้ว่าแม่จะกลับมาทำงาน เขาเลยงอแงช่วงตอนดึกเล็กน้อย (ยิ้ม) ซึ่งคุณแม่ก็ผอม ตาโหล แต่โชคดีค่ะที่เขากินนมเก่ง รวมถึงคุณแม่เองก็น้ำนมเยอะ"

เห็นว่าพี่ทาทาเองก็น้ำหนักลดมาเยอะมากเหมือนกัน ?
"ใช่ค่ะ ก็ 24 กิโลกรัมค่ะ"

น้ำหนักที่ลดลงเป็นเพราะผลจากการเลี้ยงน้องอย่างเดียวเลยหรือเปล่า ?
"เลี้ยงเรด้วย เพราะเอาจริงๆ การปั๊มนมก็มีผลมากเหมือนกัน บวกกับอาหารการกิน คือเวลาเราปั๊มนมให้ลูกการที่เราจะกินอะไรเราก็ต้องระวัง ดังนั้นมันก็เลยเป็นผลพลอยได้ด้วย บวกกลับการกลับมาทำงานที่ค่อนข้างเครียดนิดหน่อยเพราะต้องห่างกับลูก มันก็เลยทำให้เราต้องปรับ แต่ดูเหมือนทุกคนจะบอกว่าดีนะ (หัวเราะ)"

รู้สึกแฮปปี้ขึ้นไหมที่หลายคนทักว่าเราผอมลง ?
"รู้สึกดีค่ะ แต่ก็แอบกังวลนิดหนึ่งในเรื่องของความเหนื่อย คือเราต้องกลับมาฟิตตัวเองด้วยเหมือนกันหลังจากที่ไปมีบุตร แต่เอาจริงๆ เลี้ยงลูกเหนื่อยนะ"

จริงๆ เราเป็นคุณแม่ที่ห่วงลูกมากขนาดไหน ?
"คือ...สมัยนี้โรคมันเยอะไงคะ และตัวทาเองก็ไม่ได้อยากให้ลูกป่วย เหตุผลมีเท่านี้เอง แต่ถามว่าเราทะนุถนอมดูแลเขาอย่างดีไหม เอาจริงๆ เป็นลูกใครก็ต้องทำเหมือนกันนะ ห่วงเขามาก"

ช่วงที่เรามาทำงานพี่หมอเขาก็คือคนที่ดูแลลูกเอง ?
"ใช่ค่ะ เราตกลงกันไว้ว่าคนใดคนหนึ่งต้องอยู่ เพราะเราคุยกันแล้วว่าเราไม่ต้องการให้เรเขารู้สึกขาดอะไรในตรงนี้เลย คือถ้าแม่ไม่อยู่ พ่อก็ต้องอยู่ค่ะ แต่ถามว่ามีพี่เลี้ยงไหม จริงๆ เพิ่งจะมีได้ประมาณ 1 เดือนค่ะ แต่พี่เลี้ยงจะมาช่วยดูแลแค่ช่วงเช้า ส่วนช่วงดึกทากับพี่หมอจะเป็นคนช่วยดูแลทั้งหมด"

ตั้งใจจะให้น้องทานนมคุณแม่ไปถึงเมื่อไหร่ ?
"นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ อย่างตอนนี้ก็มีสต๊อกอยู่ถึงประมาณ 9 เดือนแล้วด้วย"

ถามถึงกระแสชื่นชมบ้าง หลายคนบอกว่าน้องหล่อ ?
"(เขิน) ลูกแม่ ไม่ต้องเถียงหรอกว่าหน้าเหมือนใคร เห็นๆ อยู่ เวลาพูดถึงลูกแล้วชื่นใจ (ยิ้ม)"

ถามถึงพี่หมอบ้าง เห็นเราผอมลงแต่สำหรับพี่หมอเขากลับดูอ้วนขึ้น ?
"จริงนะ ทาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย แต่ทาเชื่อว่ามันน่าจะเป็นผลมาจากความสุข คือเรามีความสุขกันมากกว่าค่ะ"

มีพรีเซ็นเตอร์ติดต่องานมาให้น้องบ้างหรือยัง ?
"คือทาคิดแบบนี้ค่ะ คุณแม่เขาเป็นดารา แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะเป็น ฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทาดูให้ลูกทาก็อยากคิดให้มันดีๆ ทาไม่อยากบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่ได้อยากทำ ฉะนั้นทาจึงจำเป็นต้องพิจารณาให้ดี ส่วนในอนาคตเขาโตขึ้นเขาชอบแบบไหนอยากทำอะไรทาก็ให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองค่ะ"

แสดงว่าตอนนี้เราก็ยังไม่ได้รับงานพรีเซ็นเตอร์ให้น้องเลยสักตัว ?
"ยังไม่พูดอะไรละกันค่ะ เดี๋ยวรอดู ส่วนงานอีเว้นท์ก็รับบ้างค่ะ"

จริงๆ การให้น้องออกมานอกบ้านมาเจอกับคนเยอะๆ เขาโอเคไหม ?
"คือตราบใดที่เขาไม่ร้องทาก็โอเคค่ะ แต่อย่างก่อนหน้านี้ทาพาเขาไปงานวันเกิดเพื่อนแล้วมีคนมาแบบทักเขา ซึ่งบางครั้งทำให้เขาตกใจร้องไห้ อันนี้ทาก็เอาลูกออกเลย คือเขาไม่แฮปปี้อ่ะ และอย่างโชว์บนเวทีเมื่อสักครู่นี้ที่เขานั่งใส่ที่ปิดหูดูกับคุณพ่อ พอเขาร้องไห้ปุ๊ปคุณพ่อเขาก็พาออกไปเลย"

แบบนี้ตั้งใจจะมีคนที่สองต่อเลยไหม ?
"อยากมีค่ะ ยังไงอยากมีน้องให้เร แต่อยู่ที่โชคชะตาด้วยเหมือนกันเพราะคนที่สองเราอยากให้เป็นธรรมชาติ ซึ่ง ณ ตอนนี้คุณหมอบอกว่าให้พักร่างกายอีกสัก 1 ปี เพื่อให้เราโอเคขึ้น และเรเองก็ได้ทานนมเต็มที่ด้วย"