แชร์กระหึ่ม แผนที่โชว์ผืนป่าเมืองไทย เหลืออยู่แค่ 32%

แชร์กระหึ่ม แผนที่โชว์ผืนป่าเมืองไทย เหลืออยู่แค่ 32%

แชร์กระหึ่ม แผนที่โชว์ผืนป่าเมืองไทย เหลืออยู่แค่ 32%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อ.ศศิน เผยข้อมูลผืนป่าเมืองไทยฉบับล่าสุด หลงเหลือเพียง 32% ทั่วประเทศ พื้นที่ถูกทำลายไปมาก แต่การฟื้นฟูแต่ละพื้นที่แค่ร้อยละ 1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์กำลังแชร์ภาพเอกสารข้อมูลการสำรวจผืนป่าล่าสุดในปี 2559 ซึ่งทาง อ.ศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์แชร์เอาไว้ผ่านทางเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ก่อนจะถูกแชร์ส่งต่อออกไปอย่างแพร่หลาย พร้อมกับข้อมูลที่น่าตกใจของผืนป่าในปัจจุบันของเมืองไทย

ภาพจากเอกสารดังกล่าว เป็นการแสดงแผนที่สถานภาพป่าในปี 2558-2559 และพื้นที่อนุรักษ์ในประเทศไทย อ.ศศิน ได้อธิบายให้เห็นภาพชัดๆ ว่า จากกรอบที่เป็นแผนที่ประเทศไทยนั้น จุดที่เป็นสีเขียวแก่ๆ ตามภูมิภาคต่างๆ คือผืนป่าใหญ่ ส่วนจุดเล็กๆ จุดเขียวอ่อนแห่งจุดนั้น แทนหย่อมป่าเล็กๆ ในประเทศ

ทั้งนี้ จากการสำรวจภาพรวมในปัจจุบัน เมืองไทยหลงเหลือผืนป่าเพียง 32% ของพื้นที่ทั้งประเทศ เอกสารยังได้ระบุสถิติพื้นที่ป่าล่าสุดในปี 2558 พบว่า จ.แม่ฮ่องสอน ยังมีผืนป่ามากที่สุด คิดเป็น 86.59% ของพื้นที่ในจังหวัด ตามมาด้วย จ.ตาก จ.ลำปาง และ จ.เชียงใหม่ ตามลำดับ

ส่วนพื้นที่ที่มีผืนป่าลดลงติดอันดับแรกของประเทศ คือ จ.เชียงราย ซึ่งผืนป่าลดลง 18% ในรอบปีที่ผ่านมา และพื้นที่ทีมีผืนป่าเพิ่มขึ้นในรอบ ได้แก่ จ.สระบุรี จ.สุรินทร์ และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่มีอัตราเฉลี่ยของผืนป่าที่เพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% ต่อพื้นที่ นับเป็นตัวเลขที่ยังไม่สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผืนป่าเมืองไทยได้

ทั้งนี้ สภาพผืนป่าของเมืองไทย กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังมีการแชร์ความแห้งแล้งของเมืองไทย ผ่านภาพถ่ายทางดาวเทียม ที่พบว่ามีความแห่้งแล้งและเกิดไฟป่าหลายจุด ทำให้โลกออนไลน์เกิดการตื่นตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง (ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ชาวเน็ตเห็นแล้วท้อ แผนที่ไทยแล้ง แทบไร้พื้นที่สีเขียว) http://news.sanook.com/1967178/

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แผนที่สภาพผืนป่าในปัจจุบันของไทยเผยแพร่ออกไป มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและรู้สึกเป็นกังวลต่ออนาคตของประเทศ ที่หากจะได้เห็นวันที่ไร้ผืนป่าของเมืองไทย เพราะยังคงมีรุกล้ำพื้นที่ป่าอย่างผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่ายังไม่มีอะไรที่จะยับยั้งการกระทำเหล่านี้ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook