มติบีโอไอเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนเมดิคัลฮับ

มติบีโอไอเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนเมดิคัลฮับ

มติบีโอไอเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนเมดิคัลฮับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติคณะกรรมการบีโอไอ เห็นชอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนเมดิคัล ฮับ เพื่อผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลางการแพทย์ครบวงจร - อนุมัติส่งเสริมการลงทุน 34 โครงการแก่กิจการในกลุ่มต่างๆ

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร หรือ เมดิคัล ฮับ โดยจะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแก่กิจการผลิตยาและกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ครบวงจร ซึ่งภายใต้นโยบายดังกล่าวจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้โครงการลงทุนในกลุ่มกิจการผลิตยาและกิจการผลิตเครื่องมือแพทย์ โดยกิจการผลิตยาในปัจจุบันไม่ได้รับการยกเว้นภาษี ก็จะเปลี่ยนเป็นให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเวลา 5 ปี และหากโครงการใดยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนภายในปี 2560 จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นเวลา 8 ปี

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 3 พื้นที่คือ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี, อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยให้เพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับโครงการลงทุนใหม่ใน 3 พื้นที่ดังกล่าว ให้สูงกว่าสิทธิประโยชน์ของมาตรการส่งเสริมการลงทุนใน 4 จังหวัดภาคใต้ 4 อำเภอของสงขลา รวมถึงเพิ่มประเภทกิจการที่ยกเลิกส่งเสริมไปแล้ว แต่เปิดให้การส่งเสริมใหม่ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ กิจการผลิตอาหาร สัตว์ หรือส่วนผสมอาหารสัตว์ กิจการผลิตวัสดุก่อสร้าง กิจการผลิตสิ่งปรุงแต่งประทินร่างกาย กิจการผลิตพลาสติกสำหรับสินค้าอุปโภค กิจการผลิตสิ่งของจากเยื่อหรือกระดาษ และกิจการพัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบีโอไอ ได้อนุมัติให้ส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการในกลุ่มต่างๆ จำนวน 34 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 266,387.7 ล้านบาท อาทิ กลุ่มเกษตร บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตไข่ไก่ เงินลงทุน 1,565 ล้านบาท บริษัท ไทย เอส พี เอฟ โปรดักส์ จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตสุกรขุนเงินลงทุน 1,458.3 ล้านบาท และบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด รับการส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิต ผลิตภัณฑ์จากกาแฟ เงินลงทุน 2,786.8 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในกลุ่มแร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นมูลฐานนั้น นายมานพ ศิริกุล รับส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเหล็กรูปพรรณ เงินลงทุน 7,500 ล้านบาท ขณะที่ นายพรชัย โตนิติวงศ์ ได้รับการส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเหล็กแผ่นเคลือบอะลูมิเนียม-สังกะสี และเหล็กแผ่นเคลือบสี เงินลงทุน 2,600 ล้านบาท ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด รับการส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตรถยนต์ PPV (Pick up Passenger Vehicle) เงินลงทุน 6,566.1 ล้านบาท


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook