รองปลัดกทม.ชี้! ปัดฝุ่นรถดับเพลิง ไม่คุ้มซ่อมก็ต้องจำหน่าย

กรณี รถและเรือดับเพลิง ที่จัดซื้อมาตั้งแต่ปี 2549 ก่อนพบว่าไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ ต้องจอดทิ้งไว้เป็นเวลาเกือบ 10 ปีนั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 จัดเข้าหมวดยุทธภัณฑ์ ให้นำออกมาใช้ได้โดยปลอดภาษี ทางกรุงเทพมหานครจึงเตรียมดำเนินการนำรถทั้งหมดมาซ่อมแซมปรับปรุง เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้นั้น

นายจักรพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร ใช้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางสถานีข่าวสปริงนิวส์ ระบุว่ารถดับเพลิงล็อตแรกมี 176 คัน จอดอยู่ที่ไทรน้อย บางบัวทอง ตั้งแต่รับมอบมาในปี 2549 โดยจะต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซมคร่าว ๆ 183 ล้านบาท ส่วนอีกล็อตมี 139 คัน เข้ามาตั้งแต่ปี 2550 จอดอยู่แหลมฉบับ จะต้องใช้งบประมาณคร่าว ๆ 178 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เกิดคำถามถึงความคุ้มค่าในการนำรถดับเพลิงทั้งหมดมาซ่อมแซมเทียบกับงบประมาณ นายจักรพันธุ์ ระบุว่า"ในกรณีที่นำรถมาซ่อม แล้วราคาซ่อมมันสูงกว่าตัวรถ ผมคิดว่าไม่มีใครทำแน่ ๆ ผมมั่นใจ สิ่งที่เราประเมินราคามา ยังไงมันก็ต้องน้อยกว่าราคารถที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่เทียบราคาเมื่อในอดีตนะครับ และรถแต่คัน ต้องมีการเข้าไปสำรวจในแต่ละคัน ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อคัน จะมากน้อยไม่เท่ากัน และหากสำรวจแล้วคันใดไม่คุ้มค่า ก็เข้าสู่กระบวนการจำหน่ายไป สรุปแล้วอาจจะไม่ซ่อมทั้งหมดเลยก็เป็นได้"