หนิง ปณิตา พูดชัด! คดี ไฮโซน้ำหวาน อย่าขุดมาด่า หวั่นกระทบลูก

แม้จะกลายเป็นเรื่องในอดีตที่ทำเอานักแสดงสาว "หนิง ปณิตา" ต้องแจ้งความฟ้องกลับ "ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ" อดีตกิ๊กของสามี "จิน จรินทร์" ในข้อหาหมิ่นประมาทจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมาจนถึงปัจจุบัน แต่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ศาลอุธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุก "ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ" 1 ปี 6 เดือน คดีหมิ่น"หนิง ปณิตา" โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ตามที่ทนายตนแจ้งในส่วนคดีอาญาจบลงแล้ว ยังมีคดีแพ่ง ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท รอศาลนัดสืบพยาน 23 ก.ย. นี้

โดยงานนี้พอมีโอกาสได้เจอ หนิง ปณิตา เจ้าตัวจึงได้ออกมาเปิดเผยหลังได้ฟังศาลตัดสินเป็นครั้งแรก ซึ่งเธอไม่ขอลงรายละเอียดอะไรมาก แต่วอนให้ทุกคนหยุดต่อว่าหรือขุดเรื่องราวต่างๆ เนื่องจากตอนนี้ลูกสาวเริ่มโต จึงไม่อยากให้เรื่องในอดีตมากระทบลูก

"ก็ดีใจ แต่จริงๆ ลึกๆ ข้างในอะไรที่ผ่านไปได้ก็อยากให้ผ่านไป แต่บางคนไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องมันยาว ไม่จบสักที คือหนิงอยากให้เข้าใจกระบวนการของศาลมันใช้เวลานานเหมือนกัน บางคดี 5-6 ปี แต่ในกรณีนี้ที่ยังต้องดำเนินการต่อไปเป็นเพราะเราอยากเรียกร้องความยุติธรรมในส่วนของเรา พอลูกเราโตขึ้นทุกวัน ไปโรงเรียนเด็กมักจะมีคำถามที่บางทีเราก็คาดไม่ถึง ก็ไม่อยากให้วันนึงลูกเราต้องมาถามเราถึงเรื่องอะไรต่างๆ ดังนั้นส่วนนึงเราอยากจะเคลียร์ตัวเราหลายๆ อย่างให้ทุกคนเข้าใจด้วย"

"คือบางคนที่ไม่รู้รายละเอียดจริงๆ ก็จะถามว่าเรื่องยังไม่จบอีกเหรอ ซึ่งมันคือเรื่องเดิมไม่ใช่เรื่องใหม่ บางคนบอกเราไม่จบสักที และมีบางคนที่เชื่อตามข่าวว่าเราไม่จบจริงๆ อีกอย่างเวลาเราอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ในวงการบันเทิง เมื่อไหร่มีจัดอันดับเรื้องเมียน้อยเมียหลวง ต้องมีชื่อหนิงเข้าไปอยู่อันดับที่ 2 หรือจัดอันดับมือตบก็ต้องมีชื่อหนิงเกี่ยวข้อง คือถ้ามองเป็นเรื่องฮาก็ฮา หนิงก็มองฮาไม่ซีเรียส แต่คนนอกที่ไม่เข้าใจเราเขาไม่มองฮาและเขามองว่าภาพพจน์เราเป็นแบบนั้น เลยอยากเรียกร้องตรงนี้เพื่อลูก"

"ลูกเราโตขึ้นเรื้อยๆ และอยู่ในสังคมออนไลน์เขาต้องได้ยินอะไรมาในเร็วๆ วันนี้บ้าง ทุกวันนี้เขาถือไอแพดและมีรูปเรา คุณจิน และรูปตัวเขาตอนเด็กๆ เขาก็ถามว่าแม่กับพ่อทำอะไรถึงมีนักข่าวเยอะแยะไปหมดเลย และหนิงเชื่อว่าวันที่เขาสามารถอ่านหนังสือได้ เขาก็จะต้องรู้ว่ามันมีอะไร"

แต่คดีตอนนี้เบื้องต้นคือเราชนะ?
"เท่าที่หนิงทราบจากทนายว่าศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ยืนคดีเหมือนกัน และโดยตามกฎหมายที่ทนายบอกนะค่ะว่าถ้าศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ยืนเหมือนกันในส่วนของคดีอาญาก็น่าจะจบเรียบร้อย เคลียร์ความบริสุทธิ์ของเรา ว่าเราไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด แต่ในส่วนของศาลแพ่งตรงนี้หนิงขออนุญาตไม่ตอบเพราะยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้"

ตอนนี้ทางศาลแพ่งมีนัดอีกทีวันไหน?
"วันที่ 23 ก.ย. ส่วนเป็นนัดอะไรอันนี้หนิงไม่มั่นใจว่าทางกฎหมายเรียกว่าอะไร คือเห็นใจหน่อยมันคือคดีเดิม ที่บางคนพูดว่ายังไม่จบ"

ส่วนตัวโล่งไหมที่ผ่านมาหลายคนมองว่าเราร้าย?
"ก็โล่งนะ แต่สุดท้ายเราจะไปบังคับความคิดใครไม่ได้ แต่ส่วนหนึ่งเราทำทั้งหมดเพื่ออนาคตลูกหนิงในการที่เขาต้องตอบคำถามอะไรแบบนี้ เราก็ต้องจัดการตรงนี้ให้เรียบร้อย"

วันที่ทราบข่าวเรื่องผลคดี รู้สึกยังไงบ้าง?
"รู้สึกโล่งแต่วันนั้นยุ่งจนลืมทุกสิ่ง ตอนเช้าอัดรายการสดและมีอัดเทปอีก 2 เทป และต้องรีบไปกองถ่ายละครต่อ และทุกคนก็โทร.เข้ามาเยอะมาก แต่เราต้องไปแก้ปัญหาเบื้องต้นวันนั้นก่อนเลยยังไม่ได้สนใจอะไร แต่พอมันนั่งเงียบๆ ตอนกลางคืนคิดว่า 'ชนะแล้วยังไง?' คือโอเคเราได้เคลียร์ความบริสุทธิ์ เพื่อสิ่งที่ถูกต้องและลูกเราจะได้เห็นในอนาคต แต่มันก็คือสิ่งที่ผ่านมาและผ่านไป เรารู้สึกโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อะไรก็แล้วแต่ในโลกมันไม่มีอะไรที่จีงรังยั่งยืน มันผ่านมาทุกคนสัมภาษณ์เสร็จทุกคนก็ลืม แล้วต่อจากนี้ที่มันต้องดำเนินการตามกฎหมาย"

ได้ติดต่ออีกฝ่ายบ้างไหม?
"ไม่ได้ติดต่อค่ะ"

ทางสามี 'จิน' รู้สึกอย่างไรบ้าง?
"จริงๆ แล้วในเรื่องของการดำเนินคดี หนิงพยายามที่จะไม่ให้จินเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเลย เพราะว่าไม่อยากให้คนไปว่าเขาว่าจุดเริ่มมันมาจากเธอนั้นแหละ แล้วเธอยังมาอยู่ข้างเมีย คนด่าแรง เราเลยกันจินเลยว่าจินไม่ต้องมาอะไรกับเรื่องนี้ ในสิ่งที่จินทำและเคยสร้างไว้มันจบแล้ว เชื่อว่ามันเป็นบทเรียนหนึ่งที่ทำให้เขา น่าจะเข็ด(หัวเราะ) ไม่กล้าฟันธง แต่เขาพยายามทำทุกอย่างให้ครอบครัวกลับมาดีมาก เป็นพ่อที่ดี ดูแลเราดี เลยกันเขาทิ้งออกไปเลย"

"แต่เขาเองเป็นคนที่อาสาจะไป ฟังคำตัดสินให้ ซึ่งหนิงบอกว่า อย่าเลยจิน ส่วนหนึ่งที่เข้าใจเรา และมีส่วนที่ไม่เข้าใจก็จะด่ากันอีกว่าเพราะมึงไง นึกออกไหม แต่จินเขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ต้นเหตุอาจจะมาจากเขา แต่ว่าวันนี้วันนี้จินสนใจความรู้สึกของหนิง และคนในครอบครัว ฟังแล้วน้ำตาจะไหล"

ส่วนเรื่อง นางร้าย ป. ข้ามเราเป็นเป้ยไปเลย?
"หลังจากเป้ยออกมาพูดแล้วต้องบอกว่าชื่นชมครอบครัวนี้ อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ หนิงบอกเป้ยเลยว่ามีปัญหากันทุกครอบครัว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเป้ย ครอบครัวเราก็เคยเกิดขึ้น สิ่งที่ทำได้ คือหันหน้าเข้าหากัน คุยกัน มองลูก ให้อภัยกัน เขาทำได้ดีมากทั้งคู่ ส่วนคุณป๊อปเองแอบส่องในไอจีเขา มีคนเขียนว่าเขา อยากให้คนในสังคมเบาๆ กับเรื่องตรงนี้นิดหนึ่ง หนิงเองบ้านอยู่ติดกัน เจอกัน เราก็คือคนนอก ไม่รู้หรอกว่าบริบทในครอบครัวเขาคืออะไร"

"ที่เรารู้คือเรื่องเราไม่ได้ร้ายแรงเหมือนสิ่งที่ข่าวเขียน บางทีเขียนแล้วไปโจมตีเขาเยอะๆ มันก็ทำให้จิตใจเขาบั่นทอน คนเป็นภรรยาก็ไม่อยากให้สามีถูกคนด่าหรอก เข้าใจครอบครัวเขาด้วย แล้วก็เป็นกำลังใจให้เขาคือสิ่งที่ดีที่สุด และจริงๆ รู้แต่แรกแล้วว่าไม่น่าใช่ครอบครัวตัวเอง แต่พอเขียนไปเยอะก็แอบเอะ หรือใช่เปล่า โทรหาเพื่อนจิน คือพักนี้เราไม่ได้ตามเลยไง เราทำแต่งานเลยเอะหรือว่าใช่"

ตอนแรกจะดำเนินคดีกับเพจที่กล่าวหาเรา ตอนนี้ไม่แล้วใช่ไหม?
"ตรงนั้นต้องไปถามคุณจินว่าอย่างไร เราไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้เลยเอาจริงๆ แอบลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกัน เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ครอบครัวเป้ย เชื่อว่าเขากำลังทำสิ่งที่ดีที่สุด หนิงอยากให้ตัวอย่างครอบครัวเขา หรือว่าครอบครัวหนิงเอง มองอย่างนี้ดีกว่าว่าครอบครัวเราเวลาเกิดอะไรขึ้นมา หันหน้าเข้าหากัน คุยกันแล้วจะผ่านไปได้ เพราะเขารักกันมาก และพร้อมจะจับมือกันผ่านไปได้"