คุณพ่อสงวน พาช่างดูเจดีย์ปอ ทฤษฎี เร่งซ่อมแซมโดยเร็ว

คุณพ่อสงวน พาช่างดูเจดีย์ปอ ทฤษฎี เร่งซ่อมแซมโดยเร็ว

คุณพ่อสงวน พาช่างดูเจดีย์ปอ ทฤษฎี เร่งซ่อมแซมโดยเร็ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้าภายหลังเกิดเหตุคนร้ายแอบทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิ พระเอกชื่อดังผู้ล่วงลับ "ปอ ทฤษฎี สหวงษ์" รวมทั้งรูปถ่ายที่ติดอยู่หน้าเจดีย์ ได้รับความเสียหายบางส่วน ในวัดธรรมธีราราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยไม่ทราบสาเหตุ และทิ้งหลักฐานไว้ในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางกระแสคำถามของเหล่าบรรดาแฟนคลับว่าผู้กระทำมีเจตนาอะไรแน่

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (9 ก.ย.) เมื่อช่วงสาย นายสงวน สหวงษ์ พ่อของปอ ทฤษฏี ได้เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับนายเพลา ใหญ่เลิศ ช่างผู้ที่เป็นผู้ก่อสร้างเจดีย์ พร้อมกับเปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องความบาดหมางกับลูกชาย ซึ่งขณะนี้ได้ให้ช่างเตรียมการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วันนี้

ด้าน คนงานก่อสร้าง ที่มาก่อสร้างอาคารภายในวัดใกล้กับเจดีย์บรรจุอัฐิปอ ทฤษฎี ซึ่งเป็นผู้เห็นร่องรอยเจดีย์ถูกทุบทำลาย เล่าว่า ในทุกๆ วันจะเห็นแฟนคลับของปอ แวะเวียนมาไหว้เจดีย์บรรจุอัฐิ

กระทั่งเมื่อช่วงสายของวานนี้ (8 ก.ย.) สังเกตเห็นเหล็กเส้น 2 ท่อน วางอยู่ด้านหน้าเจดีย์ ตั้งใจจะเดินไปเก็บออกเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้คนที่เดินผ่านไปมา และพบว่ามีร่องรอยการถูกทุบบริเวณป้ายหน้าเจดีย์ของปอ โดยมีรอยเท้าคนเดินทั่วบริเวณรอบเจดีย์ ตนจึงได้แจ้งเจ้าให้อาวาสวัดทราบ

ขณะที่ พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากผู้แทนของทางวัดธรรมธีราราม แล้ว และจากการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยรอบ พบสิ่งบ่งเหตุที่เชื่อได้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำลายทรัพย์สิน และเจดีย์บรรจุอัฐิของปอ ที่ตั้งอยู่ภายในวัดดังกล่าว

ซึ่งจากการสอบถามพยานแวดล้อมให้การตรงกันว่า มักจะพบเห็นชายสติไม่สมประกอบ เดินวนเวียนในละแวกวัด บางครั้งก็เข้ามานั่งพักในบริเวณวัด แต่ก็ไม่ได้สร้างปัญหาหรือความรำคาญให้กับผู้ใด

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยในที่เกิดเหตุและติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากการกระทำในครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งหวังเอาทรัพย์สินใดๆ เพียงแต่ทุบทำลายสิ่งของต่างๆเสียหายไปเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม จะมีการติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วต่อไป

ภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กPhumiphat Pimaksorn 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook