หนุ่มตายเป็นกระดูกกลางทุ่ง แม่เห็นน้ำตาไหล ตามหามาหลายวัน
ชาวบ้านผงะ เจอศพชายปริศนาตายเป็นกระดูกกลางทุ่งนา ต่อมาแม่มายืนยันเป็นลูกชายตัวเอง บอกตามหามาหลายวันแล้ว จำแหวนที่ใส่ได้
(10 ก.ย.) ร.ต.อ.ชุมพล ทรงงาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจาก นายดำรงค์ สัตย์ธรรม อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 41/2 หมู่3 ต.คลองสี่ อ.คลวงหลวง จ.ปทุมธานี ว่าพบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่ภายในนา บริเวณคลองสี่ฝั่งตะวันตก หมู่ 4 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นนาของชาวบ้าน บริเวณข้างถนนภายในนาข้าว เจ้าหน้าที่พบศพชาย สภาพศพเน่าเปื่อย เห็นกะโหลกและกระดูก บางส่วนยังมีเนื้อติดอยู่ นอนหงายไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น จากการตรวจสอบภายในตัวพบ แหวน สายสินธุ์ และกำไลที่ข้อมือขวา ตรวจสอบภายในตัวไม่พบเอกสารทางราชการ เบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 วัน
จากการสอบถาม นายดำรงค์ ให้การว่า ตนออกมาฉีดยาที่นาดังกล่าว แล้วได้กลิ่นเหม็นเน่า จึงได้เดินดูก็พบว่าเป็นศพคนจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ และโทรแจ้งทางผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้ามาดูว่ามีลูกบ้านใครแจ้งหายไว้หรือไม่ ซึ่งจากการดูในเบื้องต้นไม่พบว่ามีใครแจ้งหายไว้แถวนี้ จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนจากที่อื่นถูกนำมาทิ้งไว้
ในเวลาต่อมา นางศิริพร เฉยกลาง อายุ 63 ปี ได้เดินทางมายัง สภ.คลองหลวง เพื่อติดตามหาลูกชายที่ได้แจ้งหายไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ไปดูศพที่เพิ่งตรวจพบว่าใช่คนที่ตามหาหรือไม่ เมื่อไปถึง นางศิริพร ก็แจ้งว่าศพดังกล่าวเป็นของลูกชายตน ซึ่งได้แจ้งหายไว้เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ชื่อ นายสมชาย เกลี่ยงกล่ำ อายุ 41 ปี โดยนายสมชายหายออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม จนเมื่อวันที่ 2 กันยายน จึงได้เข้ามาแจ้งความที่โรงพัก
นางศิริพร กล่าวว่า ก่อนที่ลูกชายคนจะหายตัวไปนั้น ปกติลูกชายของตนจะค่อยช่วยตนขายอาหารตามสั่งอยู่ที่บ้าน และเวลาว่างก็จะออกไปเก็บของเก่าขายกับแม่ของนายนิค นายศักดิ์ชัย อายุ 22 ปี แต่ตอนหลังมาพอขายของได้แล้ วกลับมีปัญหาเรื่องเงินตนจึงไม่ให้ลูกออกไปเก็บของเก่าอีก
จนกระทั้งเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่าน นายนิค ที่เพิ่งออกจากคุกมาประมาณ 4 วัน และได้เดินทางมาหาลูกชายของตนและตนที่บ้าน ก่อนจะชวนกันไปกินเหล้าขาว ตนก็ไม่ได้คิดอะไร จึงได้ทำกับข้าวให้กินกัน 2 คน ก่อนที่เหล้าจะหมด นายนิคจึงได้ชวนผู้ตายไปกินเหล้าต่อที่บ้านนายนิค ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไป
จนกระทั่งช่วงบ่ายๆ วันนั้น นายนิคได้เดินกลับมาที่บ้าน พร้อมกับบอกว่าลูกชายตนเมาหลับอยู่ที่บ้าน ผมจะเอายานอนหลับให้กินได้ไหม เขาจะได้ไม่อาละวาด ตนจึงแย้งไปว่าจะกินได้ยังไง ถ้าตายไปจะทำอย่างไร ปล่อนอนไว้อย่างนั้นแหละ จากนั้นนายนิคก็เดินกลับไป
ผ่านไปจนถึงช่วงหัวค่ำ หลังเลิกขายของตนจึงได้เดินทางไปลูกชายที่บ้านนายนิค แต่นายนิคบอกว่าผู้ตายออกไปแล้ว ไม่ทราบว่าออกไปไหนแล้ว ตนจึงได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ก็ยังไม่พบลูกชาย จนกระทั่งวันที่ 2 กันยายน จึงได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง และวันนี้มาพบลูกชายกลายเป็นศพถูกทิ้งไว้ที่กลางท้องนาย่านคลองสี่ดังกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.เขมพัทธ์ โพธิพิทักษ์ ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเชิญตัว นายนิค แซ่เตีย มาสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นยังให้การปฎิเสธ แต่จากการเชื่อมโยงคาดว่าน่าจะได้คำตอบเร็วๆ นี้
ทางชุดสืบสวนกำลังสอบสวนอยู่ ส่วนเรื่องศพผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้ทางมูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและคลี่คลายคดีต่อไป