เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาอ่างทองเข้มปลอดภัย

เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาอ่างทองเข้มปลอดภัย

เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาอ่างทองเข้มปลอดภัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรือรับส่งข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาอ่างทอง เข้มรับผู้โดยสารตามจำนวน มีชูชีพ-พบเจดีย์บรรจุศพทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวร

เรือบริการรับส่งประชาชนพร้อมรถจักรยานยนต์ข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่ 5 ต.ราชสถิตย์ ที่ให้บริการข้ามฝั่งไปยังต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง เตรียมพร้อมดูแลเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยรับส่งผู้โดยสารตามจำนวนที่กำหนดและมีชูชีพเป็นห่วงยางในการป้องกัน นางส้มเช้า เอี่ยมอร่าม อายุ 71 ปี เจ้าของเรือรับส่งข้ามฝากกล่าวว่า ตนเองทำการให้บริการมากว่า 10 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุทางน้ำและยังปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมาตลอด โดยจะไม่ยอมบรรทุกเกินอัตราที่กำหนดไว้ และมีหวงยางแต่ก็เริ่มเก่าแก่แล้ว จึงอยากวอนขอทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานเรื่องเสื้อชูชีพในการดูแลเรื่องความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ด้านสถานการณ์น้ำไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง หลังจากฝนตกต่อเนื่องทำให้พื้นหลายจังหวัดมีน้ำท่วมขัง   

ล่าสุด ที่สถานีโทรมาตร C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ที่ 4.02 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 เมตร ทางจังหวัดอ่างทองได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งแล้ว โดยพื้นที่บริเวณ หมู่ที่ 6 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก 

ส่วนที่ ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง พระครูสุวัฒน์วรกิจ เจ้าอาวาส วัดช้าง (ช้างให้) กล่าวในสมัยอยุธยา พ.ศ.2128 มีการรบที่ทุ่งบางแก้ว พระราชมนู แม่กองระหว่างหน้า ได้ใช้วัดช้าง เป็นที่ตั้งทับ 10,000 นาย โดยส่งกองทหารออกลาดตระเวนดูกองกำลังของกองทับพระเจ้าเชียงใหม่ ที่เป็นแม่ทับหน้าพม่า ซึ่งการรบครั้งนี้เป็นการรบแบบกองโจรครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำกองทัพไทยได้รับชัยชนะ และทรงโปรดให้นำพระราชทรัพย์ มาปฏิสังขรณ์ วัดช้าง (ช้างให้) โดย พระราชมนู (เพชร) ให้ พ่อครูดาบพลอย ใช้เรือกระแชง นำไปขนทองคำและพัสดุที่จำเป็น จากกรุงศรีอยุธยา มาช่วยบูรณะ หลังจากเปลี่ยนแผ่นดินพระราชมนูได้ลาออกจากราชการในตำแหน่งพระสมุหกลาโหมแล้วบวชอยู่ที่วัดช้างให้ จนสิ้นอายุไขได้   ทางคณะศิษย์และชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิ พระราชมนู ตั้งไว้จนมาถึงปัจจุบัน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook