ตร.จ่อฝากขัง3คนคดีศพแช่แข็งยันคนร้ายแก๊งข้ามชาติ

ตร.จ่อฝากขัง3คนคดีศพแช่แข็งยันคนร้ายแก๊งข้ามชาติ

ตร.จ่อฝากขัง3คนคดีศพแช่แข็งยันคนร้ายแก๊งข้ามชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้การฯ ตำรวจท่องเที่ยว เผย สอบปากคำหัวหน้าแก๊งปลอมพาสปอร์ตข้ามชาติ ฆ่าหั่นศพ พบเข้าออกไทยกว่า 9 ปี เตรียมฝากขังศาลจังหวัดพระโขนง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยความคืบหน้าคดีแก๊งคนร้ายชาวต่างชาติ ก่อเหตุยิงตำรวจท่องเที่ยวขณะเข้าตรวจค้นจับกุม จนได้รับบาดเจ็บ และพบศพถูกหั่นแยกชิ้นส่วนในตู้แช่ ภายในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซอยสุขุมวิท 56 เมื่อวานนี้ ว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหา ทราบว่า นายปีเตอร์ แอนดริว คอลเตอร์ ชาวอังกฤษ เป็นหัวหน้าแก๊ง โดยแก๊งนี้เป็นแก๊งปลอมพาสปอร์ตข้ามชาติรายใหญ่ ซึ่งอาศัยอยู่ประเทศไทยนาน 8 - 9 ปี มีการเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง ด้วยหนังสือเดินทางจริง และปลอมในการเดินทางเข้าออก ขณะที่ฐานลูกค้าที่สั่งทำพาสปอร์ตปลอมอยู่ระหว่างตรวจสอบ นอกจากนี้ ตำรวจชุดสืบสวนได้แกะรอยการใช้โทรศัพท์มือถือของกลุ่มผู้ต้องหาว่า ได้มีการโทรไปยังจุดใดบ้าง เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 02:00 น. ตำรวจได้ลงตรวจค้นบ้านพักกลุ่มผู้ต้องหา 2 จุด ย่านอ่อนนุช ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า อีกว่าในช่วงเช้าของวันนี้จะเดินทางไปเยี่ยม จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ เชเดช ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.รับบาดเจ็บที่บริเวณท้อง ขณะเข้าจับกุมคนร้าย ที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนจะเดินทางมา สน.พระโขนง เพื่อนำตัว นายปีเตอร์ แอนดริว คอลเตอร์ ชาวอังกฤษซึ่งเป็นคนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ นายกาเบียล อารอน โทมัส ชาวอเมริกัน และ นายเจมส์ ดักลาส เอ็กเกอร์ ชาวอเมริกัน ฝากขังศาลจังหวัดพระโขนง ในเวลา 12:00 น.

ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีจับกุมแก๊งทำพาสปอร์ตปลอม และพบศพชายถูกหั่นเป็น 6 ชิ้น บรรจุในห่อพลาสติกสีดำ ถูกแช่อำพรางคดีไว้ ว่า ขณะนี้ได้ส่งตัว นายนายปีเตอร์ แอนดริว คอลเตอร์ อายุ 63 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่จับกุมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาพยายามทำร้ายตัวเองโดยบิดข้อมือให้กุญแจมือบาดข้อมือตัวเอง 

ส่วนการสอบปากคำ นายปีเตอร์ ให้การเพียงว่า เป็นตัวแทนบริษัทวิจัยบริษัทหนึ่ง เข้ามาอยู่ในประเทศไทยกับเพื่อนชายอีกคนหนึ่งก่อนเพื่อนจะได้หายตัวไปนานกว่า 3 เดือนเท่านั้น โดยปฏิเสธไม่ทราบตู้เย็นเป็นของใคร ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลตำรวจที่มีพยานยืนยัน นายปีเตอร์ เป็นเจ้าของตู้เย็น และหวงตู้เย็นใบนี้มาก


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook