ตร.เตรียมเก็บหลักฐานเพิ่มศพแช่แข็ง-หาเจ้าของบ้าน

ตร.เตรียมเก็บหลักฐานเพิ่มศพแช่แข็ง-หาเจ้าของบ้าน

ตร.เตรียมเก็บหลักฐานเพิ่มศพแช่แข็ง-หาเจ้าของบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เผย เตรียมเก็บหลักฐานในบ้านพักย่านอ่อนนุช ของผู้ต้องหาแก๊งทำพาสปอร์ตปลอม เตรียมประชุมติดตามคดีวันนี้ ด้าน น.1 เผยคดี คืบไปมาก-รอผลนิติเวช

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้ากรณีจับกุมแก็งค์ชาวต่างชาติทำพาสปอร์ตปลอม และพบร่างชายต่างชาติถูกหั่นศพ บรรจุในตู้แช่อำพรางคดีไว้ ในอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซ.สุขุมวิท 56 เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งจากเดิมที่ในช่วงเย็นวานนี้ (24 ก.ย.) ทางเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ได้เตรียมที่เข้าตรวจหาร่องรอยและเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายในบ้านพักของผู้ต้องหาภายในซอยอ่อนนุช 1 เพื่อรวบรวมหลักฐานในคดีเพิ่มเติม แต่จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้ และยังไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านเป็นใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจเข้าดำเนินการอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 26 กันยายน นี้อีกครั้ง

ขณะเดียวกันในวันนี้ เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จะมีการประชุมเพื่อเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าของคดี ที่ สน.พระโขนง โดยจะมีการนำข้อมูลต่างๆ ทั้งหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์มาทำการวิเคราะห์ร่วมกัน

ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้า กรณีพบศพถูกหั่นศพแช่แข็ง ในตู้แช่ใน ซ.สุขุมวิท 56 ของแก๊งปลอมพาสปอร์ต ว่า ล่าสุดคดีนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยได้สั่งการให้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งหลักฐานที่ปรากฏ ณ ขณะนี้ กำลังต่อเป็นจิ๊กซอว์ เหตุการตายของศพแช่แข็งและอาชีพของผู้ต้องหาทั้งสามคน ว่าทำอะไรกันแน่ แต่ยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าคดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีความมั่นคงแน่นอน อาจจะเป็นแก๊งธุรกิจผิดกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องรอทีมสอบสวนสรุปก่อน

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของศพแช่แข็งนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ตายจากการฆาตกรรมหรือถูกทำให้ตายแล้วซ่อนเร้นอำพรางศพเท่านั้น ต้องรอผลการพิสูจน์ของสถาบันนิติเวช และ พฐ. อีกครั้งหนึ่งก่อน โดยในวันนี้เวลา 10.00 น. ตนเองได้เรียกประชุมทีมสอบสวนอีกครั้งที่ สน.พระโขนง ซึ่งคาดว่ามีความคืบหน้าแน่นอน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook