แม่ค้าโมโหถูกด่าบุพการี สาดน้ำร้อนใส่ลูกค้า เจอยกพวกพังร้าน

(26 ก.ย.) เมื่อเวลา 20.30 น. ที่ สภ.เมืองชุมพร นางจารุณี อายุ 34 ปี อยู่ แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งประเภทยำ ชื่อ "เขียวยำ" ซึ่งเปิดร้านขายอาหารเฉพาะช่วงเย็นบนถนนคนเดิน สายกรมหลวง รุดเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สวัสดิ์ คงแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร เนื่องจากถูกลูกค้าพังร้านจนได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะที่นางจารุณี กำลังแจ้งความได้มี นางสาวอมรวรรณ อายุ 21 ปี คู่กรณี ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับนางจารุณี แม่ค้าร้านยำ ที่ใช้น้ำร้อนสาด จนได้รับบาดเจ็บที่ก้นและโคนขา

โดยนายเอกชัย อายุ 27 ปี แฟนของ น.ส.อมรวรรณ ได้เปิดเผยว่า ตนพร้อมแฟน ได้ขับรถยนต์ มาสั่งซื้อยำที่ร้านเขียว โดยแฟนลงจากรถไปสั่ง ส่วนตนนั่งรออยู่ในรถ ไม่นานก็ได้ยินเสียงแฟนเอะอะโวยวาย ตนจึงเรียกแฟนมาที่รถ จนแฟนเดินขึ้นมาที่รถ และต่อมาเจ้าของร้านยำก็ตามมาสาดน้ำเข้ามาในรถ ทำให้ถูกแฟนและตัวรถ ตนจึงลงจากรถและชุลมุนกันก่อนจะแยกย้ายกัน โดยตนพาแฟนไปหาหมอแล้วมาแจ้งความ

ในขณะที่นางจารุณี ได้เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไม่อยากมีเรื่อง เพราะต้องการทำมาหากิน และอีกทั้งลูกค้าคนนี้ก็เป็นลูกค้าประจำอีกด้วย แต่ตนระงับสติไม่อยู่จริง เนื่องจาก ลูกค้ารายนี้ลงมาสั่งยำ และกำชับให้ทำให้มากๆ ใส่ของให้เยอะๆ แล้วให้คิดเพิ่มไป ตนมีเงินจ่าย ซึ่งตนก็รับออเดอร์เสร็จก็ทำตามคิว ซึ่งลูกค้ารายนี้ต้องรออีกสองคิว ซึ่งเป็นธรรมดาว่าสั่งก่อนหรือมาก่อนก็ต้องทำให้ก่อน แต่รายนี้เอะอะโวยวาย ซึ่งตนพยายามชี้แจง แต่ก็ไม่เป็นผล

ตนเองบอกว่าถ้ารอไม่ไหวก็ให้กลับไปรอที่รถก่อนก็ได้ เดี๋ยวเสร็จจะให้แฟนเอาไปให้ แต่ลูกค้ารายนี้ไม่พอใจ ซ้ำยังด่าหยาบๆคายๆซึ่งตนพยายามทน แต่ก็ทนไม่ไหว ขณะที่ลูกค้าเดินขึ้นรถไปแต่ยังหันมาด่าบุพการตนหลายครั้ง จึงเอาน้ำซุปซึ่งไม่ร้อนมาก สาดไปด้วยอารมณ์ขาดสติจริง ต่อมาทางแฟนของลูกค้าได้ลงมาจากรถมาต่อว่า จนมีปากเสียง จนที่สุดก็ถูกพังร้านจนได้รับความเสียหาย

หลังจากที่ลงบันทึกแจ้งความแล้ว ทางพนักงานสอบสวน ได้นัดทั้งคู่มาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทั้งคู่ได้แยกย้ายกลับไป โดยนางจารุณี ไปที่ร้านเพื่อเก็บร้านที่ได้รับความเสียหายหลังจากคู่กรณี อารมณ์ร้อนลงมาพังทำลาย โดยนางจารุณี ได้เร่งรีบเก็บข้าวของที่ตกเกลื่อนกลาดบนถนนเพื่อกลับบ้าน เนื่องจากทางกลุ่มคู่กรณี ได้รวมตัวกว่า 30 คน อยู่ร้านข้างๆเกรงว่า ไม่ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เวลา 23.00 น.ของคืนเดียวกัน หลังจากที่บันทึกภาพและออกจากที่เกิดเหตุ ได้เพียง 15 นาที กรณีกว่า 30 คน ได้ยกพวกเข้ารุมทำร้ายนางจารุณี และ สามี ขณะกำลังเก็บข้าวของอยู่จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะแยกย้ายกันใช้ จยย.ขับหลบหนี โดยปล่อยให้นางจารุณี หอบร่างบอบช้ำโร่เข้าแจ้งความอีกครั้งต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ให้ดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด