ฟังอีกมุม จากปากด.ญ.ชาวม้ง ปมสื่อนอกตีข่าวฉกนาฬิกา

ชาวม้งดอยปุยจวกสื่อดังอังกฤษ เสนอข่าวเด็กหญิงม้งวัย 7 ขวบ ฉกนาฬิกานักท่องเที่ยวหญิง ผู้ใหญ่บ้านยืนยันเด็กไม่มีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย

จากกรณีสื่อดังของประเทศอังกฤษได้เสนอภาพและข่าวอ้างว่าเด็กหญิงชาวม้ง ที่คอยถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวบริเวณเชิงบันไดนาคทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อาศัยจังหวะขโมยนาฬิกาข้อมือ ขณะถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวหญิงชาวต่างชาติรายหนึ่ง

โดยในเว็บไซต์ได้นำภาพเด็กหญิงชาวม้งในชุดประจำชนเผ่า 2 คน ยืนประกบคู่ถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวหญิงคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นชาวอังกฤษ โดยมือของเด็กหญิงคนที่ยืนด้านขวามือในภาพจับที่ข้อมือของนักท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงหลักฐานที่สื่ออังกฤษนำมายืนยันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุด (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้เชิญตัวบิดามารดาและเด็กที่ปรากฏในภาพทั้งสองคน ไปสอบถามข้อมูลที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ โดยมีตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ร่วมสอบถาม โดยเด็กที่ถูกกล่าวหาว่าขโมยนาฬิกา เป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบ เล่าว่า ถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวคนนี้เมื่อ 1 - 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่ได้ขโมยนาฬิกาข้อมือ

ขณะที่ นางลูลู่ แม่ของเด็กหญิงทั้งสอง อายุ 37 ปี บอกว่า ลูกสาวทั้งสองคนได้สวมชุดประจำชนเผ่า คอยถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวบริเวณเชิงบันไดนาคของวัดมาตั้งแต่เด็กๆ โดยใช้เวลาในช่วงวันเหยุดเสาร์อาทิตย์และปิดเทอม

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเด็กทั้งสองไม่เคยมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย หลายครั้งที่พบสิ่งของหรือกระเป๋านักท่องเที่ยวลืมทิ้งไว้ก็จะนำไปคืนให้ การนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจ เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกสาวถูกมองในแง่ลบ ครอบครัวและเด็ก ๆ ชาวม้งในหมู่บ้านคนอื่น ๆ ก็ถูกเหมารวมไปด้วย

ด้าน นายเมธาพันธ์ เฟื่องฟูกิจการ ผู้ใหญ่บ้านบ้านม้งดอยปุย กล่าวว่า ภาพที่ถูกนำไปเผยแพร่ หากดูด้วยใจที่เป็นกลาง จะมองเห็นว่ามือทั้งสองข้างของเด็กจับที่มือและแขนของนักท่องเที่ยว เป็นการจับมือไปตามประสาของเด็กตัวเล็ก ๆ วามจริงแล้วหากเด็กขโมยนาฬิกาไปจริง ๆ นักท่องเที่ยวคนนั้นก็น่าจะรู้สึกตัว

สำหรับเด็ก ๆ ที่คอยถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวเป็นการสร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยว เป็นการนำเสนอวัฒนธรรมของชาติพันธ์ในพื้นที่ ไม่เพียงแต่เด็กหญิงทั้งสองคนนี้เท่านั้น แต่เด็กชาวม้งอีกกว่า 20 คน ในหมู่บ้านก็หารายได้ในช่วงวันหยุดในลักษณะเดียวกัน โดยยืนยันที่ผ่านมาไม่เคยมีเด็กคนไหนที่มีพฤติกรรมเสื่อมเสีย ข่าวที่ออกมาทำให้ครอบครัวของเด็กและทุกคนในหมู่บ้านม้งดอยปุยรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

ผู้ใหญ่บ้านบ้านม้งดอยปุย ระบุด้วยว่า การนำเสนอข่าวของสื่อต่างชาติเป็นการทำหน้าที่สื่อที่ไม่รอบคอบ เพราะไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน พร้อมเรียกร้องให้สื่อที่นำเสนอข่าวแสวงหาภาพหรือหลักฐานที่ยืนยันได้มาแสดง เพราะไม่เพียงแต่เด็กๆ ที่ดอยสุเทพเท่านั้น

แต่จะถูกเหมารวมไปยังแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเด็กๆ ในชุดประจำชาติพันธ์มาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้ต้องเสียหายถูกมองในแง่ลบไปด้วย ที่สำคัญยังกระทบการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่บ้านบ้านม้งดอยปุย ยังเรียกร้องให้ถอดภาพเด็กออกจากเว็บไซต์ เพราะการนำเสนอภาพโดยไม่ปกปิดใบหน้าถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก และละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามหลักสากล

รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากได้ข้อมูล ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ และ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จะร่วมกันตรวจสอบหาตัวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว รวมทั้งหาภาพของนักท่องเที่ยวรายนี้หลังจากลงมาจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เพื่อดูว่านาฬิกายังอยู่ในข้อมือหรือมีหลักฐานอย่างอื่นหรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่างมากที่สุด