ปทุมฯเร่งรับมือน้ำเหนือ-อุทัยพืชไร่จม100ไร่

ผวจ.ปทุมธานี เร่งสั่งสูบน้ำคลองรังสิต เตรียมรับมือน้ำเหนือ - พืชไร่ ต.เกาะเทโพ จ.อุทัย จมน้ำรอวันเน่าตาย เสียหาย 100 ไร่เศษ

นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางมาที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือน้ำเหนือส่วนเกินที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา โดยผ่านทุ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาลงมาทางใต้โดยเข้าสู่ จ.ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร โดยมี นายพฤทธิพงศ์ ทัศน์อัญชุลีกุล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ให้การต้อนรับและชี้แจงการระบายน้ำของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ในขณะนี้ 

นายสุรชัย กล่าวว่า การระบายน้ำของ จ.ปทุมธานี ในเวลานี้ ใช้ระบบซูปเปอร์ไฮเวย์ทางน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์ เช่น ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์สูบน้ำได้ 180,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เครื่องสูบน้ำทั้งหมดมี 24 ตัว ทั้ง 6,000 ลูกบาศก์เมต และ 3,000 ลูกบาศก์เมตร ทางเราเชื่อว่า ถ้าปทุมธานีสูบน้ำออกไปที่แม่น้ำเจ้าพระยา และกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ได้สูบมาที่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ได้ นั้น ก็จะทำให้น้ำที่เกิดจากน้ำฝนที่ตกใน กทม. และปริมณฑล ได้เวลานี้เกือบทั้งหมดก็อยากให้เห็นใจว่าเวลานี้ทางปทุมธานีทำดีที่สุดแล้ว 

ขณะที่ จ.อุทัยธานี นางสำเนียง ศรีพรม อายุ 57 ปีอยู่บ้านเลขที่ 42/1 หมู่.6 ต.เกาะเทโพ ได้เปิดเผยว่า ในบริเวณหมู่ 6 หรือที่เรียกกันว่าพื้นที่ท้ายเกาะ ของตำบลเกาะเทโพ เป็นพื้นที่ต่ำ เวลาน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรังมาไหลรวมกัน น้ำจะเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าวส่งผลให้ พืชไร่ที่กำลังเจริญเติบโต เช่น ข้าวโพด, พริกชี้ฟ้า, ถั่วฟักยาว จมน้ำรอวันเน่าตายยังความเสียหายจำนวน 100 ไร่เศษ ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ชาวบ้านเกาะเทโพยังคงต้องเฝ้าระวังว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกหรือไม่ขณะเดียวกัน บริเวณหมู่ 1 บ้านวัดราษฎรศรัทธาธรรม บ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมน้ำกว่า 50 หลังคาเรือน โดนผลกระทบเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีระดับน้ำสูงขึ้น ส่งผลให้น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมถึงพืชไร่ เช่น ข้าวโพด และถั่วฟักยาว ที่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้โดนน้ำเข้าท่วมทำให้เสียหายรวมแล้ว กว่า 150 ไร่