ตร.เร่งหาชื่อศพแช่แข็งFBIส่งข้อมูลให้แล้ว-ล่าเมียปีเตอร์

ตร.เร่งหาชื่อศพแช่แข็งFBIส่งข้อมูลให้แล้ว-ล่าเมียปีเตอร์

ตร.เร่งหาชื่อศพแช่แข็งFBIส่งข้อมูลให้แล้ว-ล่าเมียปีเตอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบก.ทท.เผยคืบคดีศพแช่แข็ง เร่งหาชื่อคนตาย ยันเอฟบีไอส่งข้อมูลมาให้แล้ว เชื่อมีธุรกิจมืดอย่างอื่น ยังไม่เจอตัวเมียปีเตอร์ตามคำกล่าวอ้าง ส่งตร.ลงพื้นที่หาข่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่าความคืบหน้า การจับกุมผู้เต้องหา ในคดีแก๊งปลอมพาสปอร์ต และพบศพถูกหั่นแช่ในตู้แช่นั้น ขณะนี้ยืนยนว่าทางเอฟบีไอ ได้ส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในรูปคดีอย่างมากมาให้กับทางตำรวจไทยแล้ว โดยในรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี แต่รับว่าทำให้มีเบาะแสและข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาก แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ทราบว่าศพที่ถูกแช่นั้น เป็นผู้ใดกันแน่ ต้องรอข้อมูลอีกจนแน่ชัด จึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นใคร สำหรับแก๊งปลอมพาสปอร์ตนั้น จากข้อมูลแก๊งนี้อาจจะมีธุรกิจมืดหรือผิดกฎหมาย มากกว่าการปลอมพาสปอร์ตแน่นอน เพราะหากเป็นอาชญากร ก็มักจะทำสิ่งผิดกฎหมายหลายอย่างร่วมด้วย ซึ่งจะได้สอบสวนขยายผลต่อไป

ผบก.ทท. กล่าวอีกว่า สำหรับภรรยาของนายปีเตอร์ 1 ในผู้ต้องหาที่ ระบุว่าอยู่กับผู้ต้องหานั้น ขณะนี้ยังไม่พบตัว และก็ยังไม่ชัดเจนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ จึงได้ส่งตำรวจลงพื้นที่เพื่อหาข่าวแล้ว ซึ่งหากมีจริง คดีนี้ก็อาจจะคลี่คลาย และมีเบาะแสเพิ่มเติมแน่นอน


ตร.คาดเร็วนี้รู้ชื่อศพแช่แข็งแก๊งปลอมพาสปอร์ต

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าคดีพาสปอร์ตปลอมและพบศพถูกหั่นแช่แข็ง ซ.สุขุมวิท 56 ว่า ล่าสุดทางทีมสืบสวนสอบสวนนครบาล พอจะทราบชื่อของศพแช่แข็งแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่าใช่หรือไม่ เนื่องจากต้องรอทางแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ รพ.จุฬาฯ ยืนยันอีกครั้งว่าตรงกันหรือไม่ คาดอีก 1-2 วัน มีความชัดเจนในเรื่องนี้ 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานประเด็นศพที่ถูกฆ่าแช่แข็งเป็นเรื่องของรักร่วมเพศว่า ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแต่อย่างใด เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ตายมีครอบครัวแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอแพทย์ยืนยันอีกครั้งว่า ศพแช่แข็งนั้นใช่บุคคลเดี่ยวกับที่ทางทีมสืบสวนสอบสวนนครบาลตรวจสอบพบหรือไม่ 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook