ย้อนรอย!! คดีฆ่าโหด "น้องเพลง" อุทาหรณ์ภัยใกล้ตัว

ย้อนรอย!! คดีฆ่าโหด "น้องเพลง" อุทาหรณ์ภัยใกล้ตัว

ย้อนรอย!! คดีฆ่าโหด "น้องเพลง" อุทาหรณ์ภัยใกล้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากคดีเด็กหายกลายเป็นคดีฆาตกรรมสยองขวัญที่สร้างความตกตะลึงให้กับสังคมไทยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อฆาตกรโฉดผู้สงมือสังหารเด็กหญิงวัย 11 ขวบที่แสนน่ารัก คือ ญาติห่างๆและมีบ้านอยู่ติดกันดูคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายแล้วสัญชาตญาณดิบกลับแฝงกลายมาในรูปแบบความใกล้ชิดและเผยธาตุแท้สนองตัณหากับเด็กหญิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทิ้งไว้เพียงความโศกเศร้าของญาติมิตรและคำถามของสังคม เหตุใดถึงต้องฆ่าอย่างโหดเหี้ยมและกระทำการอันแสนสุดจะวิปริตผิดมนุษย์ ทั้งที่ตัวฆาตกรเองก็มีลูกสาวและเป็นพ่อคนเหมือนกัน

เหตุการณ์คดีสะเทือนขวัญนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2557 เมื่อ น้องเพลง หรือ ด.ญ.เกตุมาตุ อายุ 11 ปี สูง 145 ซม. กำลังเรียนชั้น ป.6 อ.เมืองตรัง ได้หายตัวไปจากบ้านแถววัดควนขัน อ.เมืองตรัง หลังจากที่น้องเพลงได้ตามยายไปกลางทุ่งนาเพื่อนำวัวเข้าคอก แต่น้องเพลงขอตัวกลับบ้านไปก่อน จากนั้นมีคนเห็นน้องเพลงเดินกลับบ้านคนเดียวแล้วก็หายตัวไป ชาวบ้านได้ช่วยกันตามหารวมทั้งตัวฆาตกรด้วย ซึ่งให้ความร่วมมืออย่างดีในการตามหาตัวน้องเพลง โดยไม่แสดงอาการมีพิรุธแต่อย่างใด

และแล้วเรื่องน่าเศร้าก็มาถึงเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2557 มีคนพบศพถูกยัดภายในท่อคูน้ำถนน ทางเข้าวัดพระงาม หมู่ 7 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง จาการตรวจสอบพบว่าเป็นศพของน้องเพลงจริงและเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วันแล้ว

ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการหาสามารถการตาย พบข้อมูลที่น่าเศร้าใจ คนร้ายได้บีบจมูกและปาก พร้อมทุบศีรษะอย่างทารุณ ก่อนจะลงมือข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมแบบซาดิสต์วิตถารจนอวัยวะฉีกขาดไปหมด

หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายประถมพงษ์ หรือ แต๋ม อายุ 36 ปี ผู้เป็นเพื่อนบ้านของน้องเพลง มาตรวจร่างกาย พบว่าที่แผ่นหลังมีรอยถูกข่วน(เหมือนเล็บ)และรอยขีดที่หลัง(เหมือนรอยครูดกับปูน) เมื่อตรวจปัสสาวะพบมีสีม่วง และมีการฝังวัตถุ(มุก)ที่อวัยวะเพศด้วย

นอกจากนี้เมื่อตรวจค้นประวัติอาชญากรรมพบว่าผู้ต้องหามีคดีทำอนาจาร ในพื้นที่จังหวัดตรังมาแล้ว และต่อสู้คดีจนหลุดพ้นการรับโทษมาได้ แต่ครั้งนี้ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะไม่ยอมรับสารภาพ แต่ก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐานที่ชี้มัดว่าเป็นฆาตกรตัวจริง

ส่วนสาเหตุของการลงมือสังหารโหดครั้งนี้ เกิดจากการที่คนร้ายแอบชอบน้องเพลงมานานแล้ว และน้องเพลงยืมแผ่นซีดีกับลูกสาวของตนเองวัย 3 ขวบมาแล้วหลายครั้ง โดยวันเกิดเหตุ น้องเพลง จะเอาแผ่นซีดีไปคืน แต่ขณะนั้นในบ้านอยู่เพียงลำพัง จึงได้ลงมือข่มขืนแล้วฆ่า ซึ่งขณะเกิดเหตุลูกชายวัย 14 ปี ของผู้ต้องหากลับมาบ้านเห็นเหตุการณ์พอดี และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบเค้นจึงยอมให้การที่เป็นประโยชน์มัดพ่อตัวเอง

ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิต นายประถมพงษ์ หรือแต๋ม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และจำคุกตลอดชีวิต ในข้อหาปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ พร้อมให้จำเลยชดเชยค่าเสียหายแก่โจทย์ร่วม จำนวน 840,000 บาท

แต่ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ได้แก้คำพิพากษาลดโทษจากการตัดสินประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิต และรวมความผิดทั้ง 2 กระทง ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกจำเลยตลอดชีวิตสถานเดียว พร้อมให้ชดเชยค่าสินไหมทดแทนแก่ครอบครัวผู้ตายจำนวน 840,000 บาท

แม้ว่าคดีนี้จะสามารถจับตัวฆาตกรโหดและปิดคดีลงได้ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของน้องเพลงไม่อาจลืมเลือนและหายไปจากหัวอกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ได้ ซึ่งฆาตกรก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี

ที่สำคัญฆาตกรเองก็มีลูกและขึ้นชื่อได้ว่าเป็นพ่อคนแล้ว ความรู้สึกเสียใจที่ลูกถูกกระทำ แก้วตาดวงใจถูกทำลาย ตัวฆาตกรเองก็น่าจะรับรู้และเข้าใจได้ ว่ามันทรมานและเจ็บปวดมากมายแค่ไหน และเรื่องราวที่โหดร้ายเช่นนี้เมื่อไหร่จะหายไปจากสังคมไทยเสียที

จะมีวิธีการไหนได้บ้างที่จะไม่เกิดคดีแบบนี้ขึ้นอีก ขนาดคนใกล้ชิดที่คิดว่าไว้ใจได้ ยังกลายเป็นฆาตกร แล้วสังคมไทยจะอยู่กันอย่างไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook