จตุพรมั่นใจลต.มีนายกฯคนนอกหลังส่งสัญญาณใช้ม.44ยุบสภา

จตุพรมั่นใจลต.มีนายกฯคนนอกหลังส่งสัญญาณใช้ม.44ยุบสภา

จตุพรมั่นใจลต.มีนายกฯคนนอกหลังส่งสัญญาณใช้ม.44ยุบสภา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประธาน นปช. มั่นใจ หลังเลือกตั้งปี 60 มีนายกรัฐมนตรี คนนอกแน่ ชี้มีสัญญาณชัด ขู่ใช้ มาตรา 44 ยุบสภา หากโหวตไม่ได้ จี้ นายกฯ ตรวจสอบทุจริตเลี่ยงภาษีนำชิ้นส่วนรถจริงจัง ชี้ทำให้รัฐสูญเสียรายได้

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เผยแพร่ความคิดเห็นส่วนตัวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า คนนอกจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายหลังการเลือกตั้งปี 2560 ค่อนข้างชัดเจน เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีสิทธิ์ร่วมออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีตั้งแต่เริ่มแรก แล้วยังมีการอ้างอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สามารถออกคำสั่งตาม มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย ปี 2557 สั่งยุบสภาได้ จึงแสดงถึงสัญญาณการบีบพรรคการเมืองให้เลือกคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ประธาน นปช. ระบุว่า อำนาจตาม มาตรา 44 การเลือกนายกรัฐมนตรี ล้วนเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้คนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่แปลกหรือน่าตื่นเต้นอย่างใด อีกทั้งเมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มา ส.ส. และ ส.ว. ประกาศใช้แล้ว จากนั้น 60 วัน จะมีการแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน ก่อนรู้ผลเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว

นายจตุพร กล่าวถึง กรณี พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภานนท์ ยื่นหนังสือให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบบุคคลร่วมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ซึ่งเป็นประธานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง หลีกเลียงภาษีชิ้นส่วนรถ ทำให้รัฐเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท รวมทั้งให้ตรวจสอบบุคคลที่เป็นคณะกรรมการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่ทำให้รัฐบาลเสียหายกว่า 80,000 ล้านบาทด้วย และยังเรียกร้องให้ใช้อำนาจ มาตรา 44 ยึดทรัพย์เป็นของรัฐ เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าว นั้น เห็นว่า การหลีกภาษีนำชิ้นส่วนรถเข้าประเทศ ทำให้รัฐเสียหายกว่า 11,000 ล้านบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีทำการตรวจสอบ แต่ภายหลังการยึดอำนาจได้ตั้งให้บุคคลดังกล่าวเป็นคณะกรรมการดีเอสไอ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่บังคับบัญชาดีเอสไอ เท่ากับว่า ตั้งผู้ต้องหาไปบังคับบัญชาคนดำเนินคดีตัวเอง จึงเป็นสิ่งค้างคาใจสังคม และนายกรัฐมนตรี ยังร่วมงาน จับมือเปิดไฟไล่โกงอีกด้วย จึงสะท้อนถึงความสัมพันธ์กัน เมื่อมีคนมาร้องเรียนแล้ว นายกรัฐมนตรี ควรให้ความสำคัญเพื่อให้เกิดกรรมสนองโกงอย่างเป็นรูปธรรม


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook