หลอกชาวบ้านเที่ยวใต้ฟรี ที่แท้ลอบขนยาไอซ์ 160 ล้านบาท

รวบเจ้าของรถทัวร์ท่องเที่ยวพร้อมพวก หลอกชาวบ้านนั่งรถพาเที่ยวใต้ฟรี แต่ลอบขนยาไอซ์ จำนวน 40 กก. มูลค่า 160 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย นายวาทยากร อายุ 22 ปี นายสัญญา อายุ 48 ปี นายกิตติ อายุ 46 ปี นายตุลากานต์ อายุ 24 ปี นายวัณณุวรรธน์ อายุ 22 ปี และ นายทรงศักดิ์ อายุ 41 ปี พร้อมยาไอซ์ จำนวน 40 กก.มูลค่ากว่า 160 ล้านบาท ที่ซุกซ่อนมารถทัวร์ท่องเที่ยวมาแถลงผลการจับกุมต่อผู้สื่อข่าว โดยการแถลงข่าวไม่ได้นำตัวผู้ต้องหามาร่วมแถลงได้เนื่องจากติดขัดกับกฎหมายสิทธิมนุษยชน

พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. พ.ต.ท.ฉลาด พลนาการ รรท.ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจบ้านพละได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจ บนถนนเพชรเกษม ฝั่งถนนขาล่องใต้ มุ่งหน้าไปทางด้าน จ.ชุมพร บริเวณ กม.468 หมู่ที่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร

ปรากฏว่าพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีดำ ทะเบียน ผม 8806 ขอนแก่น ขับผ่านมา จึงเรียกให้หยุดและขอตรวจค้น ทราบชื่อ นายวาทยากร เป็นผู้ขับขี่ โดยมีนายสัญญา นั่งโดยสารมาด้วย ซึ่งทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน จึงขอตรวจค้นพร้อมขอตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายสัญญา พบมีข้อความที่ส่งหากัน ระบุว่า ที่ห้วยยางมีด่านตำรวจตั้ง เจ้าหน้าที่จึงสอบเค้น จนในที่สุด นายสัญญา ยอมเปิดปากและสารภาพว่า ขับรถยนต์นำเส้นทางให้กับรถทัวร์ที่ลำเลียงยาเสพติดลงไปภาคใต้ จึงได้ตรวจสอบจนทราบว่ารถทัวร์คันดังกล่าว เป็นรถทัวร์โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง (รถนำเที่ยว) ติดป้ายทะเบียนป้ายแดง 72418 ใช้เพื่อขายหรือซ่อม จึงได้ตั้งด่านเฝ้าสกัด

จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น.พบรถทัวร์ต้องสงสัยขับผ่านมา จึงเรียกขอตรวจค้นพบนายกิตติ เป็นผู้ขับขี่,นายตุลากานต์ ทำหน้าที่พนักงานประจำรถ,นายวัณณุวรรธน์ นั่งอยู่บนเบาะที่นั่งหลังสุด และมีนายทรงศักดิ์ เจ้าของรถนั่งอยู่ภายในรถด้วย และมีผู้โดยสารทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นั่งปะปนมา เพียง 13 คน ตรวจค้นพบไอซ์ ของกลาง จำนวน 40 กก.ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย จำนวน 2 ใบๆละ 13 กก.กับ 17 กก. และบรรจุในถุงพลาสติกจำนวน 1 ใบ อีก 10 กก.โดยวางอยู่หลังเบาะหลังสุดของรถ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายทรงศักดิ์ เจ้าของรถทัวร์คันดังกล่าว ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันรับจ้างนายทุนรายหนึ่ง ให้ลำเลียงไอซ์ จาก จ.หนองคาย นำไปส่งให้ผู้มารับอีกครั้งหนึ่งในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จาก จ.หนองคาย เป็นเงินจำนวน 500,000 บาท แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง ส่งดำเนินคดี และทำการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผบช.ภ.8 กล่าวยังอีกว่า ขบวนการค้ายาเสพติด ในปัจจุบัน ได้มีวิธีหลบเลี่ยง ตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจหลากหลายรูปแบบ มีทั้งมากับรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือ รถกระบะ เป็นต้น แต่รายนี้ ถือว่ามาเหนือชั้น เจ้าของรถทัวร์ใช้รถทัวร์ท่องเที่ยวของตนเอง หลอกชวนชาวบ้านจาก จ.หนองคาย มาท่องเที่ยว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แบบกินฟรีเที่ยวฟรี แต่แฝงลอบขนยาเสพติดมาด้วย แต่ก็ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของเราสามารถจับพิรุธ และตรวจอย่างละเอียดจนจับกุมได้ยกแก๊ง

นอกจากนี้ ยังสืบทราบว่า นายทรงศักดิ์ ยังมีรถทัวร์ท่องเที่ยว อีก 1 คัน และกำลังสั่งต่อใหม่อีก 6 คัน ซึ่งใน 6 คันดังกล่าว ได้มีหลักฐานการโอนเงินไปมัดจำกับทางอู่ต่อรถแห่งหนึ่ง แล้ว จำนวน 6 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินของนายทรงศักดิ์ต่อไป