ตร.ฝากขังพม่าฆ่าโหด3ศพปทุมยังปฏิเสธตร.ยันมีหลักฐาน

ตร.ฝากขังพม่าฆ่าโหด3ศพปทุมยังปฏิเสธตร.ยันมีหลักฐาน

ตร.ฝากขังพม่าฆ่าโหด3ศพปทุมยังปฏิเสธตร.ยันมีหลักฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเตรียมควบคุมตัวผู้ต้องหา ฆ่า 3 ศพ ที่ปทุมธานี ฝากขังศาลก่อนเที่ยงวันนี้ เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ ด้าน น.1 เชื่อ ชายพม่าฆ่า3ศพปทุมฯแม้ปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐาน ล่าสุด คุมฝากขังแล้วยันมีหลักฐานก่อเหตุจริง

พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้ส่งตัว นายจิมมี่ หรือ บัง อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าผู้อื่นเสียชีวิต 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มาให้พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ โดยในช่วงเช้าวันนี้ จะเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบปากคำเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จ เบื้องต้น แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดธัญบุรี เวลาไม่เกิน 12.00 น. เนื่องจากเป็นวันหยุดศาลจะเปิดทำการครึ่งวัน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ไม่น่าจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ


น.1เชื่อชายพม่าฆ่า3ศพปทุมฯแม้ปฏิเสธแต่ตร.มีหลักฐาน

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ระบุว่า แม้จากการสอบปากคำ นายจิมมี่ หรือ บัง อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาฆ่า 3 ศพต่อเนื่อง ใน จ.ปทุมธานี ตลอดทั้งคืน จะให้การภาคเสธและให้การวกวนในหลายเรื่อง แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ที่ก่อเหตุจริง เนื่องจากมีพยานเป็นสาวประเภท 2 มาชี้ตัวว่าเคยพบเห็น นายจิมมี่ ไปบริเวณจุดเกิดเหตุ และยังขอมีเพศสัมพันธ์กับพยาน และมีพยานเป็นเด็ก 6 ขวบ เห็นเหตุการณ์ขณะลงมือใช้เชือกมัดศพแรกอย่างชัดเจน และแม้ว่า พยานที่เห็นเหตุการณ์จะเป็นเด็ก 6 ขวบ แต่ก็เป็นพยานที่มีน้ำหนักพอ และไม่มีปัญหาในการให้การ เนื่องจากระหว่างให้การต้องมีเจ้าหน้าสหวิชาชีพคอยดูแลอยู่ด้วย

ซึ่ง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวด้วยว่า หลักฐานที่สำคัญที่สุดในคดีนี้ คือ ผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ บนเสื้อผ้าของผู้ต้องหา ซึ่งหากพบว่าตรงกับผู้เสียชีวิตรายหนึ่งรายใด ก็จะสามารถเชื่อมโยงคดีที่เหลือได้ทั้งหมด โดยคาดว่าจะได้รับผลการตรวจภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายจิมมี่ ได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และจะคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดธัญบุรีในวันนี้ โดยระหว่างการควบคุมตัวชั่วคราว ตำรวจจะขอให้นำผู้ต้องหาส่งจิตแพทย์ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบสภาพจิตใจอย่างละเอียดอีกครั้งด้วย

ล่าสุด พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี (ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี) เปิดเผยความคืบหน้าเหตุฆ่ามัดมือไพล่หลังชายเก็บของเก่าและหญิงเร่ร่อน รวม 3 ศพ ที่จุดกลับรถใต้สะพานแก้ว ถนนวิภาวดีรังสิต โดยจากการสอบสวน นายจิมมี่ หรือ บัง ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภาพ ซึ่งพาประจักษ์พยานมาชี้ตัว ยืนยันว่า นายจิมมี่ คือผู้ก่อเหตุจริง แต่ นายจิมมี่ ยังให้การวกวนและยังภาคเสธว่าเป็นคนในภาพวงจรปิด แต่ไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ตำรวจจึงไม่สามารถนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ แต่ตำรวจก็มีพยานหลักฐานที่จะยืนยันถึงการกระทำความผิดของ นายจิมมี่ ได้ ทั้งร่องรอยต่อสู้ตามร่างกายและคราบเลือดตามเสื้อผ้า ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์

พนักงานสอบสวนจึงนำตัว นายจิมมี่ ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรี ฝากขังผัดแรกในเช้าวันนี้ และจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


ตร.คุมตัวชายพม่าฆ่าปาดคอ3ศพชี้จุดเกิดเหตุ4จุด

ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี นำตัว นายจิมมี่ หรือ บัง อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ 3 ศพ ไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบข้อเท็จจริง จำนวน 4 จุด บริเวณสะพานเลียบคลองรังสิต ซึ่งเป็นจุดที่ นายจิมมี่ ขี่จักรยานเข้าไปนั่งดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิต จุดที่สอง บริเวณใต้สะพานข้ามคลองรังสิต ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าได้นั่งดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิตจริง แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า จุดที่สาม บริเวณจุดกลับรถเลียบคลองรังสิต ซึ่งเป็นจุดที่พบ นางสาวสุภาพรรณ คงอยู่ดี ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ และจุดสุดท้าย บริเวณริมทางเท้าใต้สะพานเลียบคลองรังสิต เป็นจุดที่พบผู้เสียชีวิตรายล่าสุด

ขณะที่ พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ระบุว่า วันนี้ได้ควบคุมผู้ต้องหามาชี้จุดประกอบข้อเท็จจริง โดยผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ และหลังจากนี้จะนำตัว นายจิมมี่ ไปขออำนาจศาลจังหวัดธัญบุรี ฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน เพื่อทำการสืบสวนหาพยานหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมทั้งรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดี ยืนยันจากการสอบสวนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และเกรงว่าพยานที่เข้าชี้ตัว รวมถึงพยานผู้เห็นเหตุการณ์จะได้รับอันตราย


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook