"กลับมาไทยครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว" ความในใจจากคู่รักศิลปินชาวรัสเซีย

"กลับมาไทยครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว" ความในใจจากคู่รักศิลปินชาวรัสเซีย

"กลับมาไทยครั้งนี้ ไม่เหมือนเดิมแล้ว" ความในใจจากคู่รักศิลปินชาวรัสเซีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายอาร์ทัม ละปิน และ นางสาวอนาสเตเซีย ชิกลิงเซวา สองศิลปินชาวรัสเซียวัย 30 ต้นๆ สวมชุดดำไว้ทุกข์ นั่งบนพื้นหญ้า หันหน้าไปยังพระบรมมหาราชวัง ในเวลาใกล้เที่ยงคืน โดยพวกเขาบอกกับทีมข่าวว่า จะนั่งตรงนี้จนรุ่งเช้า ความผูกพันของทั้งคู่ที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เริ่มจาก 6 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งเดินทางมาเมืองไทยครั้งแรกตอน พ.ศ.2553 และเดินทางมาถึงก่อนหน้าวันพ่อแห่งชาติเพียงวันเดียว ทั้งคู่จึงมีโอกาสสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและยังจำได้ถึงภาพของประชาชนที่มารอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

“คืนวันนั้นที่นี่ ท้องสนามหลวงมีคอนเสิร์ตเพลงไทย และมีคนมารวมตัวกันเพื่อจุดเทียนถวายพระพรฯ ตอนค่ำ เป็นภาพที่สวยงามมาก แต่วันนี้ภาพแบบนั้นได้กลายเป็นอดีตแล้ว สำหรับผมเองและคนไทย” นายอาร์ทัม ละปิน กล่าว

การมาเมืองไทยอีกครั้งในช่วงเวลานี้จึงแตกต่างจากครั้งนั้นโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนก็คือทั้งคู่มีความรู้สึกร่วมเช่นเดียวกับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นความสุขในช่วง 6 ปีก่อน และความเศร้าที่ปกคลุมประเทศอยู่ในยามนี้ ซึ่งอาจจะฟังดูแปลกสำหรับชาวต่างชาติที่มีสถานะเป็นเพียงนักท่องเที่ยวในเมืองไทย โดย อาร์ทัม กล่าวอีกว่า เขารู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับคนเอเชียและวัฒนธรรมเอเชียมาตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาโตมาในย่านที่มีคนเชื้อสายเอเชียอยู่ค่อนข้างมาก 

ที่สำคัญ ตัวเขาเองก็รับรู้เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชผ่านสื่อต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องและในหลายแง่มุม รวมถึงเรื่องราวสมัยทรงพระเยาว์ที่ประทับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เรื่องที่เขาประทับใจมากที่สุดคือพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระองค์ เพราะเขาเองก็เป็นนักดนตรีเช่นกัน ถึงแม้ว่าแนวดนตรีที่เขาถนัดจะเป็นแนวอิเล็กทรอนิก ไม่ใช่ดนตรีแจ๊ซก็ตาม

“พอรู้ว่าท่านทรงแซ็กโซโฟนก็ไปหาดูคลิปในยูทูป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคลิปที่บันทึกไว้เมื่อหลายสิบปีแล้ว แต่ก็พอที่จะทำให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทางดนตรีจริงๆ” คำที่นักดนตรีจากรัสเซียใช้อธิบายพระอัจฉริยภาพทางด้านนี้ของท่านเป็นภาษาอังกฤษก็คือ “amazing” และ “wonderful”

เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ อาร์ทัม และ อนาสเตเซีย อยู่ที่สวนลุมพินี ก็มีชาวต่างชาติคนหนึ่งเดินมาบอกข่าวเศร้ากับพวกเขา ทันทีที่รู้เรื่องนี้ ทั้งคู่ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของเมืองไทยและตัดสินใจเดินทางมายังบริเวณพระบรมมหาราชวังตั้งแต่ช่วงกลางวันของวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในคืนวันที่ 15 ตุลาคมและนั่งอยู่จนถึงเช้าของวันถัดมา

สิ่งที่หลายคนคงสงสัยก็คือ สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในสถานะนักท่องเที่ยวอย่างพวกเขาแล้ว เขา ‘เห็นอะไร’ และ ‘รู้สึกอย่างไร’ กับภาพที่เห็นตรงหน้า

“ในสถานการณ์แบบนี้ เราเห็นความเป็นครอบครัวของคนไทยซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะมาสักการะพระบรมศพเพียงอย่างเดียวหรือมาอาสาอำนวยความสะดวกให้คนอื่นๆ ดูราวกับเป็นพี่น้องกัน ทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน”

“เรายังรู้สึกด้วยว่า มิตรภาพและการช่วยเหลือกันอย่างจริงใจอย่างเช่นนี้คือสิ่งที่จะช่วยหล่อเลี้ยงโลกต่อไปในอนาคต” อาร์ทัม ตอบพร้อมกับรอยยิ้มอีกครั้ง

ทีมข่าว Sanook! News มั่นใจว่า ครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนจะเดินทางมายังบริเวณพระบรมมหาราชวังเพื่อน้อมระลึกถึงกษัตริย์ที่แม้แต่ชาวต่างชาติยังเข้าใจถึงความยิ่งใหญ่ โดยไม่มีกำแพงของภาษาหรือว่าวัฒนธรรมที่ต่างกัน

รวมข่าวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังเสด็จสู่สวรรคาลัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook