ไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช (ไฟปิดลง)

ไม่เหมือนเดิมแล้ว หลังชั้น 16 โรงพยาบาลศิริราช (ไฟปิดลง)

ตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เมื่อเวลา 15.52 น. วันพฤหัสบดีที่ 13 ต.ค.2559 สิริพระชนมพรรษา ปีที่ 89 นั้น ซึ่ง ณ เวลานี้ทุกคนก็ยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า และอาลัยพ่อหลวงยิ่งนัก

ในวันถัดมาพสกนิกรชาวไทยนับแสนก็ได้หลั่งไหลไปจับจองพื้นที่ตลอดเส้นทางจากโรงพยาบาลศิริราชจนถึงพระบรมมหาราชวังเพื่อกราบบังคมทูลส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย และตั้งแต่วันนั้นบริเวณรอบๆ พระบรมมหาราชวังก็กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของเหล่าพสกนิกรที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ ต่างจาก รพ.ศิริราช ที่เคยเป็นศูนย์รวมจิตใจก่อนหน้าเมื่อวันนี้ไม่มี "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ประทับอยู่ชั้น 16 แล้วก็เห็นได้ชัดถึงบรรยากาศที่เงียบเหงาอย่างชัดเจน 

นางมานิจ สุ่มเล็ก ข้าราชการบำนาญ

"ตอนท่านประทับอยู่เวลามาที่ศิริราชก็จะมองขึ้นไปชั้นที่ท่านอยู่เสมอ บางทีถ้าโชคดีก็จะได้เห็นท่านมองลงมาก็ดีใจกัน แต่วันนี้เดินเข้ามาแม้จะรู้อยู่ในใจว่าท่านไม่อยู่แล้วก็อดไม่ได้อยู่ที่จะมองขึ้นไปเพราะท่านเคยอยู่ที่นี่"

"คุณป้ามานิจ สุ่มเล็ก" ข้าราชการบำนาญ วัย 71 ปี กล่าว และการเดินทางมาโรงพยาบาลศิริราชครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ครั้งนี้ไม่มีในหลวงแล้วรู้สึกเสียใจรักและยังไม่อยากให้ท่านจากไป ให้อยู่กับประชาชนนานที่สุดเท่าที่จะนานได้ โดยขณะที่คุณป้ามานิจเล่าไปก็แหงนมองชั้น 16 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติและน้ำเสียงก็เริ่มสั่นและพูดกับทีมข่าวว่า "ป้าเชื่อว่าในหลวงท่านได้ไปอยู่สวรรค์แล้วและท่านก็ยังคงมองลงมาดูประชาชนของท่าน"

อาคารเฉลิมพระเกียรติ

จากนั้นทีมข่าว Sanook! News ได้เดินสังเกตบรรยากาศรอบๆ รพ.ศิริราช และได้เห็นภาพที่ทุกคนเมื่อเดินมาก็มักจะแหงนมองขึ้นไปบนชั้น 16 ทีมข่าวจึงได้เข้าไปสอบถาม "คุณจันทร์เพ็ญ จันทร์ทอง" และ "คุณอัมพร สารสันต์" ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทในสมัยเรียนจึงชวนกันมาที่โรงพยาบาล เพราะคิดว่าที่นี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ๆ ในหลวงเคยประทับอยู่แต่เมื่อมาถึงก็รู้สึกใจหายที่นี้ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว

จันทร์เพ็ญ จันทร์ทอง  และ อัมพร สารสันต์

"เดินเข้ามาในโรงพยาบาลเห็นทุกอย่างรอบๆ ตัวเป็นสีดำไปหมด มันรู้สึกหดหู่มากๆ พอมองขึ้นไปชั้น 16 ก็รู้สึกใจหายน้ำตาจะไหลตลอด จากที่ทุกครั้งมาเหมือนเราได้มากราบไหว้ให้ท่านหายจากอาการพระประชวร แต่วันนี้มีเพียงแค่พระบรมฉายาลักษณ์ให้เรากราบไหว้"

ความเงียบเหงาบริเวณศาลาศิริราช และ อาคารเฉลิมพระเกียรติ

เหมือนกับสองเจ้าหน้าที่พยาบาลของ รพ. ศิริราช "เรวดี เรืองศรี" และ "ณาณภัทร โรจน์หัสดิน" ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เราเคยได้มีโอกาสรับเสด็จ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" เวลาที่ท่านมาประทับที่โรงพยาบาลและการทำงานเมื่อตอนที่พระองค์มาอยู่ก็จะรู้สึกอุ่นใจมีแรงบันดาลใจในการทำงานท่านทำให้เห็นแล้วก็รู้สึกชื่นชม เมื่อเราเกิดความยุ่งยากและลำบากใจในการทำงานก็จะนึกถึงพระองค์ท่าน ท่านให้เรารู้สึกโชคดีที่ได้ทำงานที่ รพ.ศิริราช มาถึงทุกวันนี้

เรวดี เรืองศรี และ ณาณภัทร โรจน์หัสดิน พยาบาล รพ. ศิริราช

"พอมาถึงวันที่ไม่มีพระองค์ท่านประทับอยู่ชั้น 16 ไฟก็ปิดลง แล้ว ยอมรับว่าตอนแรกหมดแรงและกำลังใจในการทำงานเหมือนกันและก็รู้สึกเคว้งคว้างสิ่งที่เรายึดเหนี่ยวจิตใจได้ขาดหายไป แต่ก็จะขอยึดท่านเป็นต้นแบบในการทำงานของตัวเองต่อไป"

เป็นความรู้สึกของพสกนิกรบางส่วนที่ยังคงเดินทางมาเก็บความทรงจำเกี่ยวกับ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ที่โรงพยาบาลศิริราช แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่า ณ วันนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วหลังจากที่ชั้น 16 ไฟได้ปิดลง