กกต.กำหนดยุทธศาสตร์นำไปสู่ลต.สุจริต-เที่ยงธรรม

'สมชัย' เผย กกต. น้อมนำพระบรมราโชวาท เป็นแนวทางกำหนด 5 ยุทธศาสตร์ ในปี 60 เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เปิดเผยว่า กกต. ได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม โดยน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแนวทางเพื่อสนองแนวพระยุคลบาท คือ การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้โดย กกต.ได้กำหนด 5 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ ยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง โดยตั้งเป้าว่า จะต้องมีองค์กรเอกชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ครบทุกจังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของหน่วยเลือกตั้งทั้งประเทศ ยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพนักจัดการเลือกตั้งมืออาชีพ โดยเป้าหมายคือ หน่วยเลือกตั้งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ ว่าทำหน้าที่ไม่ถูกระเบียบหรือผิดพลาด ต้องไม่เกินร้อยละ 0.01 หรือ 10 หน่วย จากหน่วยที่มีทั้งประเทศประมาณ 100,000 หน่วย ยุทธศาสตร์จัดตั้งหมู่บ้านปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การจัดตั้งจะเกิดขึ้น
ภายใต้ความสมัครใจของประชาชนในพื้นที่ โดยตั้งเป้าหมายก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในช่วงปลายปีพ.ศ. 2560 ประเทศไทย จะมีหมู่บ้านปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง อย่างน้อย 1 หมู่บ้านต่อหนึ่งอำเภอ ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกประชาชน โดยนำระบบเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกประชาชน และสนับสนุนการเลือกตั้งคุณภาพ โดยทั้ง 4 ยุทธศาสตร์แรก 
จะประเมินผล ทุก ๆ 3 เดือน และสุดท้ายคือ ยุทธศาสตร์การเพิ่มประสิทธิภาพสืบสวนสอบสวน การวินิจฉัย และการดำเนินคดีในศาล โดยได้จัดทำหลักสูตรอบรมวิชาชีพพนักงานสืบสวนสอบสวนและประมวลจริยธรรม จำนวน 3 รุ่น เมื่อผ่านการอบรมแล้ว พนักงานสืบสวนสอบสวน ต้องดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน และจัดทำสำนวนที่ได้มาตรฐาน ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และการจัดทำคำวินิจฉัยต้องแล้วเสร็จ และสามารถยื่นคำร้องต่อศาลก่อนครบกำหนดได้ภายใน 6 เดือน