ป๊อบ ปองกูล ร่วมทำดีสกีนเสื้อฟรีเพื่อพ่อ

'ป๊อบ ปองกูล' ร่วมนักศึกษา ทำดี สกีนเสื้อฟรีเพื่อพ่อ พร้อมนำแบบอย่างของพ่อหลวงเป็นกระจกส่องสะท้อนการกระทำของตัวเอง

เรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อเสียงดีอีกคนสำหรับ ป๊อบ-ปองกูล ที่ได้รวมตัวกับนักศึกษามาตั้งบูธสกรีนเสื้อฟรีให้กับพี่น้องชาวไทยที่เดินทางมายังท้องสนามหลวง และเชื่อว่าที่คนไทยมีน้ำใจแบบนี้เป็นเพราะรากฐานของคนไทยเองเป็นคนมีน้ำใจอยู่แล้วแต่เพียงเพราะว่าสังคมสมัยนี้ต้องเร่งรีบ เลยทำให้คนไทยลืมในจุด ๆ นี้ไป อยากจะขอให้ทุกคนนำพ่อหลวงเป็นกระจกส่องการกระทำของตัวเอง

เจ้าตัวบอกได้มาสกรีนเสื้อและมีน้องน้องจากโรงเรียนเพาะช่าง มาช่วยกันเป็นกำลังหลักเลยส่วนลายเสื้อได้มาจากเพจ Facebook ที่ชื่อว่า ปรัชญาลายกราฟฟิก คนออกแบบชื่อ คุณเหลิม ลายที่เขาได้ออกแบบมามีคนแชร์กันเยอะก็เลยได้ไปขออนุญาตนำมาสกรีนลงในเสื้อเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ทางนั้นเจ้าของเองก็ยินดีและอยากจะให้แบบนี้ไปถึงกับทุก ๆ คนที่กำลังเจ็บปวดกันอยู่ที่กำลังสูญเสียกันอยู่ เจ้าตัวเองก็ได้มาแล้วสองวัน ส่วนตัวเองอยากจะมาหลายวัน แต่ว่าวันที่มาก็มีปัญหาเกิดขึ้นเยอะเหมือนกัน ก็เลยต้องขออนุญาตกลับก่อน กลับไปแก้ไขปัญหาก่อนแล้วจะกลับมาเมื่อไหร่เนี่ยเดี๋ยวจะบอกอีกทีนึง
 
ถามถึงเรื่องที่คนไทยมีน้ำใจให้กันบอกรู้อยู่แล้วว่าคนไทยพื้นฐานนิสัยเป็นแบบนี้แต่ว่าโดยอยู่ในสังคมปัจจุบันที่มันต้องเร่งรีบเกินไปทุกอย่างบางทีเราอาจจะลืมเลือนในตรงนี้ไปเจอต่อว่าครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่ทำให้เป็นคลื่นลูกใหญ่มากที่ทำให้พวกเรามีสติกลับมาอีกครั้งหนึ่ง บอกเป็นคำสอนของพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ท่านทำงานมาจนถึงท่านจากไปแล้วท่านก็ยังสอนไห้ด้วยชีวิตของท่านบอกเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสทบทวนและละลึกของตัวเองว่าจริง ๆ แล้วคนไทยของเรา มีนิสัยเป็นยังไงเรามีอุปนิสัยจริง ๆ เราเป็นยังไง

คำสอนของพระองค์บอกพระองค์เป็นคนที่ดำรัสน้อยมีพระราชดำรัสไม่เยอะถ้าเปรียบเทียบกับการทำงานในรูปแบบคนอื่นแต่ว่าสิ่งที่ท่านสอนกับพวกเราเป็นการกระทำสิ่งที่ท่านทำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตการวางแผนการทำงานหรือแม่กระทั่งพระอารมณ์ขัน รู้ว่าเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวกับพระองค์การเล่นดนตรีทุกอย่าง เป็นแบบอย่างให้กับเราได้หมดเลยซึ่งสิ่งสำคัญก็คือตัวอย่างที่ดีและอยากรู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้องหรือเปล่าเราเอากระจกในรูปแบบของพระองค์มาดูได้เลยว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องหยุดหรือเปล่า

บอกจริงๆโศกเศร้าเหมือนกับทุกคนมันเป็นภาวะของความตระหนกเราไม่ได้ทำใจกันมาก่อนรู้สึกว่ามันเป็นภาวะของการสูญเสียที่ชัดเจนที่สุดในช่วงชีวิตของเราเพราะฉะนั้นมีเรื่องเศร้าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ว่าต่อไปจากนี้เราสามารถที่จะดำเนินชีวิตไปในรูปแบบที่ดีได้และสิ่งที่พระองค์ทิ้งไว้ไม่ว่าจะเป็นคำสอนต่างๆ หรือการกระทำต่างๆที่พระองค์ทำไว้มันเป็นแสงเทียนส่องทางให้พวกเราได้อย่างดีมากในการที่จะดำเนินชีวิตเดินไปข้างหน้าในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ลองเอาพระราชาดำรัสของพระองค์หรือพระราชกรณียกิจของพระองค์กลับมาทบทวนในการใช้ชีวิตของพวกเรา