เปิดใจคนบันเทิงร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ ร้องเพลงถวายพ่อหลวง

(22 ต.ค.) คนบันเทิงก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เดินทางเข้าร่วมแสดงพลังประสานเสียงขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่บริเวณหน้าพระลาน กำแพงมหาราชวัง ท้องสนามหลวง ซึ่งจะมีการบันทึกภาพเพื่อแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เพราะมีประชาชนนับแสนคนร่วมร้องเพลงจนดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ โดยคนบันเทิงที่มาร่วมงานต่างเปิดใจถึงความรู่สึกที่ได้มาร่วมร้องเพลง และความประทับในที่มีต่อในหลวง รัชกาลที่ 9 ว่า

สรพงษ์ ชาตรี

"บรรยากาศในวันนี้ผมมาในฐานะคนติดตามท่านมุ้ย ช่วยดูแลความเรียบร้อยของประชาชน ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเราจะถ่ายกันอย่างไร เวลาถ่ายแต่ละคนจะต้องทำตัวอย่างไร รวมถึงนำทีมนักแสดงขึ้นมาพูดให้กำลังใจประชาชนว่าที่มาวันนี้ก็เพื่อพ่ออยู่หัวของเรา ไม่ว่ายังไงเราก็จะอยู่กับคุณใครมีแรงก็มาสู้กันอีก และตัวผมเองก็ไม่รู้สึกอยากกลับเลย ผมเกิดมา 67 ปี ยังไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน เป็นความสุขเล็กๆ ในหัวใจที่ได้มาอยู่ในวันนี้ เป็นความภูมิใจความประทับใจ และจะได้เล่าให้ลูกให้หลานฟังว่าบรรยากาศวันนี้เป็นอย่างไร"

"สำหรับตอนนี้ตัวผมเองก็กำลังสร้างพระพุทธเจ้ายาว 99 เมตร ซึ่งก่อนหน้าก็เคยสร้างหลวงปู่โตถวาย ตอนพระองค์ครองราชย์ครบ 60 ปี และตอนนี้ท่านมุ้ยให้ผมสร้างพระนอนถวายบูรพามหากษัตริย์สยามประเทศทุกพระองค์ ซึ่งจะสร้างไว้ที่อำเภอสีคิ้ว ที่เดียวกับวัดที่สร้างหลวงปู่โต เราจะไปซื้อที่ขยาย จะให้อาจารย์เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ที่เป็นศิลปินแห่งชาติออกแบบวิหารตัวอาคาร"

"สุดท้ายผมก็อยากจะบอกกับคนไทยทุกๆ คนว่า เราสามารถว้าเหว่และเหงาได้ แต่เราก็ยังต้องทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพราะความดีนั้นจะอยู่กับตัวเรา หากไม่มีใครรู้แต่เราก็จะมีความสุขกับตัวเราเอง วันนี้เราได้เก็บขยะสักชิ้นหนึ่ง เราก็มีความสุขของเราเองได้โดยการทำความดี ที่เราไม่ต้องขอจากใคร"

แก้ม เดอะสตาร์

"วันนี้คนเยอะมากค่ะ ถึงแม้ว่าแก้มจะไม่สามารถเข้าไปในท้องสนามหลวงได้ แต่การที่เดินทางมาถึงตรงนี้วันนี้แก้มก็ดีใจมากแล้ว ดีใจที่ได้มาเห็นพลังของคนไทยเพราะทุกคนคนมากันด้วยใจจริงๆ ส่วนตัวแก้มเองก็ถือว่าเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ได้ส่งพลังเพื่อรวมร้องเพลงถวายในหลวงรัชกาล9 ของเรา ซึ่งบทเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันนี้มีความพิเศษอย่างมากเลยนะคะ เพราะว่ามันมาจากใจของประชาชนคนไทยทุกคน"

แอฟ ทักษอร

"วันนี้รู้สึกตื้นตันมากค่ะ ยิ่งพอได้มาเห็นบรรยากาศจริงก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงพลัง เป็นพลังของคนไทยที่รวมใจกัน ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็พร้อมใจกันมา ทุกคนสามัคคีรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว โดยขณะที่ร้องเพลงอยู่ แอฟมีความรู้สึกว่า ท่านกำลังมองพวกเราอยู่นะ แอฟเชื่อว่าบารมีของพระองค์ท่านยังคงคุ้มครองเราอยู่ และยังคงเฝ้ามองดูว่าประชาชนของท่านเป็นยังไง แอฟอยากให้ท่านเห็นถึงความรักและความสามัคคีของคนไทยค่ะ"

"ทุกๆ คำสอนที่ท่านพระราชทานให้กับประชาชนในช่วงที่ผ่านมา แอฟมองว่าท่านเป็นเหมือนนักปราชญ์ แนะนำแนวทางการดำเนินชีวิตให้กับชาวไทย ซึ่งสามารถใช้ได้จนถึงปัจจุบัน แอฟเชื่อว่าถ้าทุกคนที่ทำตามหลักคำสอนท่าน สังคมไทยก็จะเป็นสังคมที่ดี สามารถเจริญรุ่งเรืองต่อได้ในอนาคต ในฐานะพสกนิกรชาวไทยคนนึง ลูกคนนี้ก็มีความรักพระราชาพระองค์นี้มาแต่เกิด ลูกคนนี้สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด(สะอื้นไห้) จะทำประโยชน์เพื่อสังคม และสอนลูกสาวของแอฟคือน้องปีใหม่ ให้ดำเนินชีวิตตามรอยเท้าของพ่อหลวงต่อไป"

นิว วงศกร

"ในใจลึกๆ ผมก็คาดหวังว่าจะให้เป็นงานอื่นที่เห็นคนไทยมาแสดงความรักและความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน ไม่อยากให้เป็นโอกาสแบบนี้เลย เพราะถ้าเป็นโอกาสอื่นมันน่าจะทำให้เราตื้นตันใจได้มากกว่านี้ แต่ในเมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้เราก็ต้องยอมรับความจริง สิ่งที่เราทำได้วันนี้มันเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราจะแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อพระองค์ท่าน ซึ่งมันไม่ได้สักเสี้ยวหนึ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อคนไทย แต่มันก็ยังดีกว่าที่เราไม่ทำอะไรเลย"

"ภาพของคนไทยวันนี้ที่ผมเห็น คือทุกคนเดินทางเข้ามาจากทั่วประเทศ ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่ได้เห็นมานานแล้ว ผมเชื่อว่าพระองค์ท่านจะรับรู้ได้ และทุกๆ คำสอนของพระองค์ท่านจะไม่หายไปไหนไม่ว่าจะผ่านไปอีก 10ปี หรือ 20ปี เราคนไทยก็จะสอนลูกสอนหลาน อย่างน้อยๆ ผมคนหนึ่งล่ะที่จะบอกลูกบอกหลานว่าเราเกิดในสมัยรัชกาลที่9 ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์ที่ไม่มีความสบาย ทรงทำงานหนักตลอดระยะเวลาการครองราชย์ ห้องทำงานของท่านคือสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยครับ"

อั้ม อธิชาติ-นัท มีเรีย

อั้ม อธิชาติ : "ผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่และทุกคนที่ดูทางบ้านอยู่ต้องรู้สึกขนลุกในความตั้งใจของทุกคนที่มาร้องสรรเสริญพระบารมีในวันนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ พลังความจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของบ้านเมืองเราที่ต่อให้ประเทศไหนในโลกก็ไม่สามารถทำแบบเราได้"

"ในฐานะคนไทยผมก็ตั้งใจไว้โดยตลอดว่า จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ ทั้งกับประเทศ สังคม และผู้อื่น เหมือนอย่างที่พระองค์ท่านทรงปลูกเมล็ดกล้าไว้ในหัวใจของเราทุกคน ซึ่งหน้าที่ของเราต่อจากนี้ก็คือจะต้องส่งต่อความดีให้ลูกๆ หลานๆ ทำให้พวกเขาโตมาเป็นต้นไม้ที่มีรากที่แข็งแรง"

นัท มีเรีย : "บรรยากาศวันนี้เป็นภาพที่ประทับใจมากค่ะ นัทอยากให้คนไทยทุกคนจงอย่าลืมที่จะทำความดี เพราะพระองค์ท่านไม่ต้องการอะไรมากมาย พระองค์ท่านเป็นเหมือนพ่อที่แค่อยากให้ลูกมีความสุข สามัคคีรักใคร่ปรองดองกัน และที่เรามาร่วมร้องสรรเสริญพระบารมีในวันนี้นัทก็อยากให้ทุกคนเก็บความรู้สึกนี้ไว้ในใจ เพื่อเตือนสติเราทุกครัั้งว่าเวลาเราจะทำอะไร เรานึกถึงพระองค์ท่านก่อนว่าทรงทำอะไรให้เราไว้บ้าง"

"นัทเคยได้มีโอกาสรับเสด็จพระองค์ที่ศิริราชค่ะ ตอนนั้นคุณแม่นัทรักษาตัวอยู่ที่ศิริราช นัทเลยมีโอกาสได้รับเสด็จพระองค์ตอนท่านยังเดินด้วยพระองค์เอง วันนั้นท่านลงมาจากรถเพื่อมาเยี่ยมสมเด็จพระพี่นาง นัทจำได้ว่าเห็นประตูรถท่านเปิดมา ตั้งแต่เท้าท่านเหยียบพื้นดิน มีไม้เท้าตามลงมา แล้วท่านก็ค่อยๆ เดินขึ้นบันได (ร้องไห้) นัทเห็นพระองค์โบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนเป็นภาพที่นัทจำไม่ลืมเลย พระองค์ท่านเมตตามีน้ำพระทัยงดงาม พระองค์ท่านรักครอบครัวและรักประเทศชาติ ประทับใจมาก อยากจะบอกกับพ่อหลวงว่าอยากจะทำดี คิดดีทำดีพูดดี ปฏิบัติตัวดี ให้ดีที่สุด เป็นคนที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติของเราด้วย ไม่มากก็น้อยจะทำสุดความสามารถ"