ครูดำน้ำรัสเซียซิ่งแหกโค้ง ถังออกซิเจนระเบิดดับสยอง

ครูดำน้ำรัสเซียซิ่งแหกโค้ง ถังออกซิเจนระเบิดดับสยอง

ครูดำน้ำรัสเซียซิ่งแหกโค้ง ถังออกซิเจนระเบิดดับสยอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครูสอนดำน้ำชาวรัสเซีย ซิ่งรถฝ่าสายฝนโปรยปรายเข้าเมือง เสียหลักทางลงภูเขาแหกโค้งชนกำแพงดินข้างทาง รถคว่ำระเบิดไฟลุกคลอกเสียชีวิตสยองคาเก๋ง

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 ต.ค.) เกิดอุบัติเหตุสยองขวัญบริเวณถนนสายอ่าวยนต์-เขาขาด ช่วงทางโค้งลงเขา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต รถยนต์คันหนึ่งขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนกับกำแพงดินข้างทาง และเกิดเพลิงลุกไหม้ท่วมคัน เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลวิชิต ได้เร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลาม แต่รถคันดังกล่าวมีถังก๊าซ ทำให้ดับเพลิงด้วยความยากลำบาก และมีการระเบิดออกมาเป็นระยะ

เหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาราวๆ 20 นาที จึงจะสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ก่อนจะเข้าตรวจสอบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต พบเป็นรถยนต์โตโยต้า พาโก้ รุ่นเก่า ถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน ความเสียหายทำให้เผาทำลายเลขทะเบียนรถไป และยังพบศพผู้เสียชีวิตติดอยู่ในซาก ฝั่งที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่จึงช่วยเก็บกู้นำร่างออกมา

ขณะที่จากการตรวจสอบทรัพย์สินบริเวณรอบๆ พบกระเป๋าสตางค์ตกอยู่และไม่ถูกไฟไหม้ มีเอกสารประจำตัวระบุคือ นาย YEFTM ALEKSANDROVICH SHUMKOV อายุ 20 ปี สัญชาติรัสเซีย และยังพบถึงออกซิเจนที่ใช้สำหรับดำน้ำอยู่ที่ด้านหลังรถอีก 2 ถึง เป็นสาเหตุที่เกิดระเบิดขึ้นติดต่อกัน 2 ครั้ง และระงับเหตุได้ยาก

เบื้องต้นพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นครููสอนดำน้ำชาวรัสเซีย ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ขับรถออกมาจากบ้านพัก ย่านอ่าวยนต์ ก่อนจะใช้เส้นทางดังกล่าว ที่มีเส้นทางโค้งไปตามเขา ประกอบกับมีฝนตกลงมาโปรยปราย เชื่อว่าเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ น่าจะเกิดรถเสียหลัก ทำให้พุ่งชนข้างทางและเกิดเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว โดยที่ชาวบ้านก็ช่วยเหลือไม่ได้

ในเวลาต่อมาเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาถึงที่เกิดเห ตุเมื่อเห็นสภาพรถและศพถึงกับร้องไห้ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าบัตรที่พบอยู่ภายในเป็นของผู้เสียชีวิตจริง โดยมาช่วยเป็นครูสอนดำน้ำให้กับนักท่องเที่ยวได้ราวๆ เดือนเศษแล้ว

ผู้เสียชีวิตได้เช่าบ้านอยู่พื้นที่บ้านอ่าวยนต์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร คาดว่าจะเข้าไปทำธุระในตัวเมืองภูเก็ต อย่างไรก็ตามทางเจาหน้าที่จะทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมกับหาหมายเลขทะเบียนรถที่ชัดเจน พร้อมจะประสานสถานฑูณรัสเซียประจำประเทศไทยแจ้งให้ญาติทราบต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook