นายกฯปราศรัยวันสหประชาชาติเผยตปท.ยกในหลวงต้นแบบ

นายกฯปราศรัยวันสหประชาชาติเผยตปท.ยกในหลวงต้นแบบ

นายกฯปราศรัยวันสหประชาชาติเผยตปท.ยกในหลวงต้นแบบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ปราศรัยวันสหประชาชาติ ยัน พร้อมร่วมพัฒนา เผยต่างประเทศยกในหลวงเป็นต้นแบบ - นับเป็นความภาคภูมิใจของไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปราศรัยเนื่องในวันสหประชาชาติ ว่า วันที่ 24 ต.ค. ของทุกปี เป็นวันสหประชาชาติ ซึ่งมีความหมายสำคัญต่อมวลมนุษยชาติ โดยสหประชาชาติมีวัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่เป็นองค์การสากลระหว่างประเทศ ในการบรรเทาทุกข์และแก้ไขปัญหาของโลก จรรโลงสันติภาพและความมั่นคง ปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสร้างเสริมความเจริญรุ่งเรืองแก่มวลมนุษยชาติ ภายหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง โดยประเทศไทยมีบทบาทเข้มแข็งในฐานะสมาชิกสหประชาชาติมาตลอด 70 ปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากองค์กรและประเทศสมาชิก ด้วยการมีส่วนร่วมให้ความเห็น และแบ่งปันประสบการณ์แก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศ เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจของสหประชาชาติที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

ทั้งนี้ ส่วนตัวได้รับรายงานว่า ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานสมัชชาสหประชาชาติได้กล่าวถวายคำไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และที่ประชุมของประเทศสมาชิก 193 ประเทศได้ยืนสงบนิ่ง เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วย ซึ่งนานาประเทศล้วนประจักษ์ในพระปรีชาสามารถในด้านการพัฒนา และมีอีกหลายประเทศที่กล่าวถวายการยกย่องว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นผู้นำอย่างแท้จริง หลักการเรื่องการพัฒนาของพระองค์ท่านได้รับการยอมรับและนำไปปรับใช้ในกว่า 20 ประเทศทั่วโลกด้วย ซึ่งประเทศต่าง ๆ ที่ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ ได้แสดงความขอบคุณไทย ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของไทยในการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีไปสู่ระดับสากล

อย่างไรก็ตาม เนื่องในวันสหประชาชาติในปีนี้ ในนามของรัฐบาลไทย ขอใช้โอกาสนี้แสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และขอแสดงความยินดีต่อ นายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติคนใหม่ ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งโดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 และจะเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติคนที่ 9 ในช่วงต้นปี 2560 ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์และความมุ่งมั่นของ นายกุแตเรช จะมีคุณค่าในการขับเคลื่อนให้สหประชาชาติเป็นหน่วยงานที่จะช่วยธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความสงบสุข ความมั่นคง และความเป็นอยู่ที่ดีของมวลมนุษยชาติยิ่งขึ้นไปอีก ขอย้ำว่า ไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับสหประชาชาติในฐานะสมาชิกที่รับผิดชอบเพื่อประโยชน์และความสุขของโลกของเรา


นายกฯมองปี59เป็นการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของUN

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ในปี 2559 นี้ เป็นปีเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของสหประชาชาติ โดยเป็นปีแรกของการดำเนินการตามกรอบความร่วมมือสำคัญระดับโลก โดยเฉพาะเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs กรอบเซนไดเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ความตกลงปารีสเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแผนปฏิบัติการระดมทุนเพื่อการพัฒนา วาระสำคัญเหล่านี้ต้องอาศัยแรงผลักดันในระดับสากลเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นสำหรับโลกของเรา ซึ่งไทยได้ร่วมแสดงบทบาทอย่างแข็งขันและสร้างสรรค์ในประเด็นเหล่านี้ตลอดปีที่ผ่านมา  

อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญในปีนี้ ประเทศไทยได้ทำหน้าที่ในฐานะประธานกลุ่ม 77 ที่แข็งขัน สร้างสรรค์ และชัดเจน ช่วยยกระดับไทยในเวทีระหว่างประเทศอย่างมาก ไทยมีผลงานการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของสหประชาชาติอย่างชัดเจน 3 ประการ (1) การสร้างหุ้นส่วนที่กว้างขวางในเวทีโลก อาทิ การเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับกลุ่ม 20 ในฐานะประธานกลุ่ม 77 
(2) การส่งเสริมความร่วมมือใต้-ใต้
(3) การแบ่งปันแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และได้กล่าวถ้อยแถลงในหัวข้อ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน : แรงผลักดันสากลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเรา” ส่วนตัวได้กล่าวถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาประเทศและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านความร่วมมือทวิภาคีและไตรภาคี และการสร้างการเชื่อมโยงหุ้นส่วนด้านการพัฒนาผ่านกรอบความร่วมมือภูมิภาคต่าง ๆ เช่น อาเซียน BRICS และ ACD รวมถึงการผสานความร่วมมือระหว่างกลุ่ม 20 กับ กลุ่ม 77 ในการเข้าร่วมประชุมของกลุ่ม 20 ล่าสุด ที่นครหางโจว เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้เข้าร่วมการประชุมและกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงต่าง ๆ เพื่อแสดงท่าทีไทยในเวทีระหว่างประเทศ และยืนยันพันธกรณีของไทยต่อสหประชาชาติ อาทิ การประชุมสุดยอดระดับผู้นำด้านผู้ลี้ภัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดีในการย้ำเตือนให้ประชาคมโลกตระหนักถึงบทบาทที่เด่นชัดของไทยที่ทำงานร่วมกับสหประชาชาติมากว่า 40 ปี รับภาระเรื่องผู้ลี้ภัยมาแล้วกว่าล้านคน โดยให้ความช่วยเหลือบนหลักมนุษยธรรมมาโดยตลอด โดยได้ประกาศคำมั่นที่สำคัญ ในการดำเนินการของไทยเพื่อให้การช่วยเหลือและดูแลกลุ่มดังกล่าว ซึ่งคำมั่นของไทยชัดเจนและได้รับการชื่นชมจากประเทศต่าง ๆ อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าความสำเร็จที่กล่าวมา เป็นบทพิสูจน์อย่างดียิ่งต่อความมุ่งมั่นของไทยที่จะมีบทบาทนำที่แข็งขัน ชัดเจน และสร้างสรรค์ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสหประชาชาติให้บรรลุเป้าประสงค์ในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน การพยายามระงับการพิพาทระหว่างประเทศ การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนนำความกินดี-อยู่ดี มาสู่รัฐสมาชิกทุกประเทศ


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook